สมศ. ถอดบทเรียน พบตัวอย่าง 5 เทคนิคสอนออนไลน์สุดปัง พร้อมแนะสถานศึกษานำไปปรับใช้รับเปิดเทอมใหม่
สมศ. ถอดบทเรียน พบตัวอย่าง 5 เทคนิคสอนออนไลน์สุดปัง พร้อมแนะสถานศึกษานำไปปรับใช้รับเปิดเทอมใหม่

สมศ. ถอดบทเรียน พบตัวอย่าง 5 เทคนิคสอนออนไลน์สุดปัง พร้อมแนะสถานศึกษานำไปปรับใช้รับเปิดเทอมใหม่

28 พฤษภาคม 2564 – สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. เผยจากการประเมินคุณภาพภายนอก ภายใต้สถานการณ์ COVID-19  ด้วยวิธีการประเมินผลจากการวิเคราะห์รายงานประเมินตนเอง (SAR)ของสถานศึกษา และการประเมินจากการตรวจเยี่ยมแบบออนไลน์ (Online) โดย สมศ. พบว่า ถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังไม่คลี่คลาย ซึ่งส่งผลให้สถานศึกษาทั่วประเทศจำเป็นต้องปรับรูปแบบการเรียนการสอนตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม แต่ก็มีสถานศึกษาหลายแห่งสามารถจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สมศ. ถอดบทเรียน พบตัวอย่าง 5 เทคนิคสอนออนไลน์สุดปัง  พร้อมแนะสถานศึกษานำไปปรับใช้รับเปิดเทอมใหม่
สมศ. ถอดบทเรียน พบตัวอย่าง 5 เทคนิคสอนออนไลน์สุดปัง พร้อมแนะสถานศึกษานำไปปรับใช้รับเปิดเทอมใหม่

โดยสามารถจำแนกออกได้เป็น 5 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่ 1.การสอนออนไลน์ผ่านสื่อเทคโนโลยีที่หลากหลาย 2.การสอนผ่านคลิปวีดีโอ 3. การสอนแบบง่ายสลับยาก 4.การสอนออนไลน์โดยใช้สื่อประสม และ 5.การสอนออนไลน์กึ่งออฟไลน์ เพื่อเป็นแนวทางให้กับสถานศึกษาอื่น ๆ ในการนำมาปรับใช้สำหรับการเรียนการสอนได้ในช่วงการเปิดภาคเรียนใหม่นี้

ดร.นันทา หงวนตัด รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ
ดร.นันทา หงวนตัด รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ

ดร.นันทา หงวนตัด รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เกิดขึ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ สมศ. ต้องปรับรูปแบบการประเมินภายนอกไปอยู่ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อไม่ให้กระทบต่อสถานศึกษาในการรับประเมินคุณภาพภายนอกประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมีการแบ่งการประเมินออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรก การประเมินผลจากการวิเคราะห์รายงานการประเมินตนเอง (SAR) ของสถานศึกษา และระยะที่สองเป็นการประเมินจากการตรวจเยี่ยมแบบออนไลน์ (Online) ซึ่งเป็นไปตามความสมัครใจของสถานศึกษา เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดการเรียนของสถานศึกษาในช่วงที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากการดำเนินการประเมินคุณภาพภายนอกในช่วงที่ผ่านมา สมศ. พบว่าสถานศึกษาได้มีการนำเสนอ ให้เห็นว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ผ่านมา  ทางสถานศึกษาต้องปรับรูปแบบการเรียนการสอนมาอยู่บนออนไลน์เกือบทั้งหมด เพื่อให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งสถานศึกษาหลายแห่งมีรูปแบบการจัดการเรียนออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถนำมาเป็นแนวทางสำหรับสถานศึกษาอื่น ๆ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ดังนี้

สอนออนไลน์ผ่านสื่อเทคโนโลยีที่หลากหลาย

ตัวอย่างจากการสอนออนไลน์ของโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีฐาน สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น พบว่าทางสถานศึกษาได้ให้ครูผู้สอนใช้โปรแกรมGoogle Class room และแบ่งห้องเรียนตามรายวิชาและระดับชั้นอย่างชัดเจน  หลังจากนั้น ครูผู้สอนประจำรายวิชาจะมีการเผยแพร่สื่อการสอนใน Google Class room และส่งลิงก์ห้อง Google Class room ไปยังไลน์กลุ่มแต่ระดับชั้นเพื่อให้ผู้ปกครอง เข้าถึงได้อย่างสะดวก นอกจากนี้สถานศึกษายังมีการสอนออนไลน์แบบสด โดยครูผู้สอนบางรายวิชาจะเลือกสอนผ่าน Line VDO Call  เพราะใช้ง่ายและติดต่อกับผู้เรียนได้สะดวก ซึ่งทางโรงเรียนเปิดกว้างให้ครูผู้สอนสามารถดำเนินการได้ตามความถนัด แต่ถ้าผู้เรียนที่ไม่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยี ครูผู้สอนจะโทรศัพท์นัดให้เข้ามารับใบงาน นอกจากนี้ ในระหว่างรอเปิดเทอมอย่างเต็มรูปแบบ ครูผู้สอนยังได้จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนเลือกหนังสือที่ตัวเองชอบ 1 เล่มเพื่อมาอ่านให้เพื่อน ๆ และครูผู้สอนฟังผ่านทาง Google Class room หรือไลน์กลุ่ม (Line Group) เพื่อเสริมสร้างจินตนาการและนิสัยรักการอ่าน พร้อมกับเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

สมศ. ถอดบทเรียน พบตัวอย่าง 5 เทคนิคสอนออนไลน์สุดปัง พร้อมแนะสถานศึกษานำไปปรับใช้รับเปิดเทอมใหม่ 5

การเรียนการสอนผ่านคลิปวิดีโอ

ตัวอย่างจากการสอนออนไลน์ของโรงเรียนวัดไทร (ถาวรพรหมานุกูล) สังกัดสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร พบว่าสถานศึกษามีการจัดแผนการสอนออนไลน์ไว้ตลอดทั้งภาคการศึกษา  เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยทางสถานศึกษาจะเน้นการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบส่งคลิปวีดีโอการสอนที่เตรียมการโดยครูผู้สอนประจำรายวิชา พร้อมทั้งแบบฝึกหัด บทเรียน รวมไปถึงการใช้ข้อมูลจากการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV)และ ยูทิวบ์ (YouTube)  เพื่อให้ผู้เรียนมีช่องทางการเรียนรู้ที่หลากหลายช่องทาง ส่วนวิชาที่มีความยากและซับซ้อน เช่น วิชาคณิตศาสตร์ ครูผู้สอนจะอัดคลิปวิดีโอและอธิบายการทำโจทย์แต่ละข้อเสมือนการสอนในชั้นเรียนจริง โดยสื่อการเรียนทั้งหมดจะส่งผ่านไลน์กลุ่ม (Line Group) ในแต่ละระดับชั้น ส่วนการแจกใบงานทางสถานศึกษาจะให้ผู้ปกครองเป็นผู้มารับใบงานที่สถานศึกษาด้วยตนเอง ซึ่งสถานศึกษาได้จัดตารางเวลาการรับใบงานตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม

การสอนแบบง่ายสลับยาก

ซึ่งเป็นการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ของโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน สถานศึกษามีการเตรียมความพร้อมครูผู้สอนแต่ละรายวิชา เพื่อให้ครูจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ในรายวิชาที่สามารถทำได้ อาทิ เช่น วิชาภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ ส่วนวิชาใดที่จำเป็นจะต้องเรียนในห้องเรียนหรือรายวิชาการปฏิบัติอย่างเช่น วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ที่ครูจะต้องอธิบายโจทย์ ทางครูผู้สอนจะเก็บไว้ก่อน เพราะการเรียนออนไลน์นั้นจากการวิเคราะห์พบว่าเด็กจะมีสมาธิเพียงแค่ประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้น การเรียนออนไลน์จึงไม่เหมาะจะสอนในวิชาที่ยากและซับซ้อน

สมศ. ถอดบทเรียน พบตัวอย่าง 5 เทคนิคสอนออนไลน์สุดปัง พร้อมแนะสถานศึกษานำไปปรับใช้รับเปิดเทอมใหม่ 6

สอนออนไลน์โดยใช้สื่อประสม

เป็นการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ของโรงเรียนสาธิตพัฒนา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน โดยทางโรงเรียนได้มีการปรับหลักสูตรการสอนให้เหมาะสมกับระบบออนไลน์ให้ได้มากที่สุด มีการสอนออนไลน์แบบสดผ่านโปรแกรมไมโครซอฟท์ทีม (Microsoft Teams) โดยเน้นให้ครูผู้สอนทำหลักสูตรที่น่าสนใจ เข้าใจง่ายและสนุก พร้อมจัดกิจกรรมให้เด็กได้มีส่วนร่วม เมื่อครูผู้สอนได้ออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้แล้ว จะนำมาเสนอให้กลุ่มเพื่อนครูที่สอนในรายวิชาเดียวกัน ทั้งในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับชั้น รวมทั้งฝ่ายวิชาการและอาจารย์ที่ปรึกษาจะช่วยกันตรวจสอบเนื้อหา ให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เพื่อปรับให้แผนการจัดการเรียนรู้น่าสนใจเหมาะสมกับเวลาประมาณ 30-40 นาที และหลังหมดคาบเรียนจะต้องให้เด็กทำแบบทดสอบ เพื่อเป็นการเช็คว่าผู้เรียนเข้าเรียนจริง รวมทั้งเป็นการตรวจสอบว่าบทเรียนที่นำไปสอนทำให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจหรือไม่ เพื่อที่ครูผู้สอนประจำรายวิชาจะได้นำมาปรับแนวทางสำหรับการทำสื่อการเรียนการสอนในครั้งต่อ ๆ ไป

จัดการสอนออนไลน์กึ่งออฟไลน์

ตามแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการ โดยกระทรวงได้มีการออกแบบการเรียนออนไลน์ที่เน้นให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเรียนรู้ทักษะชีวิตที่จำเป็นจากเหตุการณ์ร่วมสมัย ครูผู้สอนสามารถใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์ “ครูพร้อม” ส่วนการเรียนแบบออฟไลน์จะเน้นให้เด็กทำใบงานตามที่ครูผู้สอนนำไปมอบให้ที่บ้าน ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ในระหว่างช่วงรอยต่อของการปิดภาคเรียน และยังสามารถเข้าถึงความรู้ได้ตามความเหมาะสมและความสะดวกของผู้ปกครอง  อย่างไรก็ตามการสอนแบบออนไลน์กึ่งออฟไลน์ช่วยให้ผู้เรียนมีโอกาสเข้าถึงความรู้ได้อย่างเท่าเทียมกันได้อีกด้วย

“สำหรับในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังไม่คลี่คลายนั้น ส่งผลให้สถานศึกษาทั่วประเทศจำเป็นต้องปรับรูปแบบการเรียนการสอนตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม สมศ. เองในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ด้านการประเมินคุณภาพการศึกษา ก็ได้มีการปรับรูปแบบการประเมินคุณภาพภายนอกไปเป็นการประเมินในรูปแบบออนไลน์ รวมถึงการอบรมผู้ประเมิน  และการส่งเสริมสถานศึกษาก็มีการปรับไปอยู่บนออนไลน์ทั้งหมด เพื่อให้กระบวนการประเมินสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เพิ่มภาระแก่สถานศึกษาในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังไม่ดีขึ้น รวมทั้งเพื่อให้การทำงานมีความสอดคล้องกับการจัดการเรียนในรูปแบบออนไลน์ด้วย  ” ดร.นันทา กล่าวสรุป

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน) โทรศัพท์ 0-2216-3955 หรือเข้าไปที่ www.onesqa.or.th

#สมศ  #ประเมินคุณภาพภายนอก #สอนออนไลน์ #โควิด19 #JCCOTH

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่