สาธารณสุข เผย เปิดโรงเรียนเสี่ยงติดเชื้อกว่าเดินห้าง ย้ำ 6 มาตรการเข้ม รับมือเปิดเทอมสกัดโควิด-19
สาธารณสุข เผย เปิดโรงเรียนเสี่ยงติดเชื้อกว่าเดินห้าง ย้ำ 6 มาตรการเข้ม รับมือเปิดเทอมสกัดโควิด-19

สาธารณสุข เผย เปิดโรงเรียนเสี่ยงติดเชื้อกว่าเดินห้าง ย้ำ 6 มาตรการเข้ม รับมือเปิดเทอมสกัดโควิด-19

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า การเปิดโรงเรียนเป็นเรื่องที่ทั่วโลกให้ความสนใจ สำหรับประเทศไทยจะพบว่ากลุ่มเด็กอายุ 10-19 ปี ติดเชื้อประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ และเป็นการติดเชื้อจากครอบครัว ทั้งยังพบว่าเวลาเด็กติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ เมื่อเกิดความใกล้ชิดกับเพื่อนเวลาเรียนก็อาจเกิดการแพร่เชื้อ ทั้งนี้โรงเรียนยังเป็นการรวมกันของเด็กจำนวนมากและใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งวัน หากเกิดการติดเชื้อเมื่อเด็กกลับบ้านก็จะทำให้จำนวนผู้ที่เกี่ยวข้องมีจำนวนมากตามไปด้วย ซึ่งต่างจากเวลาไปเดินห้างที่จะใช้เวลา 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้นการเปิดเรียนจึงต้องมีการวางมาตรการและเตรียมความพร้อม โดยกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ ต้องร่วมมือกัน

อธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อว่า สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขจะทำร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ มีการจัดแผนคู่มือแนวทางการเปิดเรียน โดยมีการทำแผนเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจก่อน และเตรียมการฝึกอบรมคุณครูก่อนมีการเปิดภาคเรียนเพื่อให้ครูได้รอบรู้เกี่ยวกับสุขภาพอนามัยและมาตรการต่างๆเนื่องจากครูเป็นคนสำคัญในการช่วยดูแลในการควบคุมกำกับให้มาตรการที่สำคัญทางด้านสาธารณสุขดำเนินต่อไปได้ ส่วนกระทรวงศึกษาธิการจะเตรียมการเรื่องการเปิดภาคเรียน

สำหรับมาตรการเตรียมความพร้อมเปิดเทอมนั้น โรงเรียนต้องปฏิบัติตาม 6 มาตรการ ได้แก่ 

1.มีการวางแผนตั้งจุดคัดกรองล่วงหน้า โดยให้แต่ละโรงเรียนไปดูเรื่องการตั้งจุดคัดกรอง

2.เด็กนักเรียนต้องสวมหน้ากากตลอดระยะเวลาโดยเฉพาะเด็กโต 

3.โรงเรียนต้องมีจุด ให้เด็กทำความสะอาดตั้งเจลและจุดล้างมือ 

4.ต้องมีการออกแบบการรักษาระยะห่าง 

5.เน้นทำความสะอาดผิวสัมผัสต่างๆอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะสนามเด็กเล่น 

6.ลดกิจกรรมการรวมกลุ่ม เช่น กีฬาสี 

ทั้งนี้จะเปิดได้อย่างไรต้องมีการหารือกัน ขณะนี้ผู้ปกครองต้องสอนให้ลูกรู้ถึงการเตรียมตัวเพื่อลดความเสี่ยง อย่างไรก็ตามการเปิดเรียนสำคัญโดยเฉพาะเด็กเล็กหากเปิดเรียนผู้ปกครองก็จะสามารถไปทำงานได้ ส่วนโรงเรียนก็ต้องร่วมมือกับสาธารณสุขในพื้นที่ในการป้องกันควบคุมโรค ส่วนการติดตามตรวจสอบนั้นจะเป็นกระทรวงศึกษาร่วมกับอนามัยโรงเรียน ” พญ.พรรณพิมล กล่าว

ต่อข้อถามว่า มาตรการที่วางไว้จะมั่นใจได้อย่างไรว่าโรงเรียนจะสามารถทำตามได้ พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ความสำเร็จของไทยที่ผ่านมาเกิดจาก ความร่วมมือของทุกคนมาตลอด เมื่อบุตรหลานมีความเสี่ยง เช่น เป็นไข้ ไอจาม ก็ต้องยอมให้หยุดเรียน ทั้งนี้การดูแลเด็กเล็กจะช่วยให้ผู้ปกครองกลับไปทำงานได้

ขอบคุณที่มา : เพจAt_HeaR ข่าวจริงเข้าหู

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่