สพฐ.เดินหน้ายกระดับคุณภาพแม่พิมพ์ทั้งระบบ !!!
สพฐ.เดินหน้ายกระดับคุณภาพแม่พิมพ์ทั้งระบบ !!!

สพฐ.เดินหน้ายกระดับคุณภาพแม่พิมพ์ทั้งระบบ !!!

ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มีการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เพื่อเตรียมการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แก่นักเรียนในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. พร้อมทั้งติดตามการขับเคลื่อนนวัตกรรม Active Learning ในสถานศึกษา รวมถึงการดำเนินงานโรงเรียนคุณภาพ การพัฒนาเด็กปฐมวัย ความคืบหน้าในการดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา และการพัฒนาบุคลากรในภาพรวมของปี 2564 จนถึงแผนพัฒนาบุคลากรในปี 2565 ที่จะถึงนี้

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการพัฒนาบุคลากรภาครัฐ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ มีการจำแนกกลุ่มเป้าหมายในการพัฒนาออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ประกอบด้วย ข้าราชการพลเรือนสามัญ บุคลากรทางการศึกษา 38คน (2) ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ จำนวน 42,276 คน และกลุ่มที่ 2 ประกอบด้วย ครูผู้สอน ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารการศึกษา จำนวน 393,512 คน โดยกลุ่มที่ 1 มีแนวทางการพัฒนาตามหลักสูตรการพัฒนาบุคลากรภาครัฐของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ในทักษะเชิงยุทธศาสตร์ ทักษะด้านภาวะผู้นำ และทักษะตามสายงาน ส่วนกลุ่มที่ 2 มีแนวทางการพัฒนาที่สอดคล้องกับนโยบาย น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ในด้านการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพของครูให้มีสมรรถนะทางภาษาและดิจิทัล เพื่อให้ครูได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะทั้งด้านการจัดการเรียนรู้ด้วยภาษาและดิจิทัล

“ขณะที่เรากำลังเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ ส่วนสำคัญที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จคือโรงเรียนที่มีคุณภาพ ทั้งโรงเรียนคุณภาพของชุมชน โรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง หรือโรงเรียนสแตนอโลน เราต้องการให้โรงเรียนเหล่านี้มีคุณภาพ แต่คนที่จะทำให้โรงเรียนเหล่านี้เกิดคุณภาพได้ก็คือบุคลากรที่มีอยู่ในปัจจุบันเราต้องมาคิดกันว่าจะทำอย่างไรให้เปลี่ยนแปลงความคิดและเกิดวิธีการทำงานใหม่อย่างที่เราคาดหวัง ในด้านความรู้ ด้านทักษะ และด้านเจตคติที่มีต่องานในหน้าที่ จึงต้องมาดูหลักสูตรการพัฒนาว่าตอบโจทย์ที่จะทำให้โรงเรียนมีคุณภาพหรือไม่ และต้องเสริมอะไรเพิ่มเติม” ดร.อัมพร กล่าว.

ขอบคุณที่มา : Facebook At_HeaR ข่าวจริงเข้าหู

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่