มติ ก.ค.ศ. ครั้งที่ 2/2567 เห็นชอบ การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ว 9/2564 มีผล 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป
มติ ก.ค.ศ. ครั้งที่ 2/2567 เห็นชอบ การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ว 9/2564 มีผล 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป

มติ ก.ค.ศ. ครั้งที่ 2/2567 เห็นชอบ การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ว 9/2564 มีผล 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 2/2567 วันพฤหัสบดีที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม และมี รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นเลขานุการการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและมีมติที่สำคัญ ดังนี้

มติ ก.ค.ศ. ครั้งที่ 2/2567 เห็นชอบ การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ว 9/2564 มีผล 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป
มติ ก.ค.ศ. ครั้งที่ 2/2567 เห็นชอบ การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ว 9/2564 มีผล 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป 2

1. เห็นชอบ การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่กำหนดให้มีการปรับวิธีการประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ได้เห็นชอบแนวทางการปรับปรุงระบบการประเมินวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สำนักงาน ก.ค.ศ. เสนอ โดยมีการเพิ่มห้องเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพิ่มตัวชี้วัดการประเมินด้านผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน และเพิ่มช่องทางการแนบหลักฐานการได้รับรางวัลหรือได้รับการรับรองจากองค์กรของรัฐหรือเอกชน นั้น ที่ประชุม ก.ค.ศ. จึงได้เห็นชอบ การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ว 9/2564 ดังนี้

1. เพื่อรองรับการกำหนดห้องเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพิ่ม

1.1 เพิ่มห้องเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในแบบประเมิน และในระบบ DPA 1.2 เพิ่มเติมนิยาม คำว่า “แผนการจัดการเรียนรู้” ให้หมายความรวมถึง แผนการจัดกิจกรรมสำหรับผู้สอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนด้วย ในหลักเกณฑ์และวิธีการฯ หมวด 1 1.3 ปรับชื่อตัวชี้วัดและรายการประเมิน

2. เพื่อรองรับการประเมินสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน

2.1 กำหนดให้มีการรายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนเพิ่ม
2.2 เพิ่มช่องทางการแนบเอกสารหลักฐาน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน ผลการพัฒนาลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะที่สำคัญตามหลักสูตร ฯลฯ ในระบบ DPA

3. เพื่อรองรับการเพิ่มช่องทางการแนบหลักฐานการได้รับรางวัลหรือได้รับการรับรองจากองค์กรของรัฐหรือเอกชน

3.1 เพิ่มข้อความ “กรณีที่ผู้ขอเคยได้รับรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติ ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 4 ปีอาจแนบหลักฐานการได้รับรางวัลดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาได้จำนวนไม่เกิน 1 ไฟล์ ในหลักเกณฑ์และวิธีการฯ”
3.2 เพิ่มช่องทางการแนบเอกสารหลักฐานการได้รับรางวัลหรือได้รับการรับรองจากองค์กรของรัฐหรือเอกชน ในระบบ DPA

4. เพื่อให้มีความคล่องตัวและความชัดเจนในการประเมิน

4.1 แก้ไของค์ประกอบคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลง (PA) ข้อ 3.2 จากข้อความว่า “ครูผู้สอนจากสถานศึกษาอื่นที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าครูชำนาญการพิเศษ” เป็น “ครูผู้สอนในสถานศึกษาหรือจากสถานศึกษาอื่นที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าครูชำนาญการพิเศษ” ทั้งนี้ ต้องไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะของผู้ขอรับการประเมินและเพิ่มข้อความ “ทั้งนี้ ต้องมีกรรมการประเมินที่เป็นกรรมการนอกสถานศึกษา อย่างน้อยจำนวน 1 คน”
4.2 เพิ่มข้อความ “โดยมีรูปแบบตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด” ไว้ท้ายหลักเกณฑ์ฯ ข้อ 2 ด้านที่ 1 2) ไฟล์วีดิทัศน์ฯ ข้อ (2) และด้านที่ 2 ในหลักเกณฑ์ฯ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการจัดทำไฟล์วีดิทัศน์ เนื่องจาก ก.ค.ศ. ได้กำหนดรูปแบบ การจัดทำไฟล์วีดิทัศน์ไว้ตาม ว 15/2565

ปรับชื่อห้องเรียนจาก “ห้องเรียนการศึกษานอกระบบ/ตามอัธยาศัย” เป็น “ห้องเรียนการส่งเสริมการเรียนรู้” เนื่องจากสำนักงาน กศน. มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของหน่วยงานและได้เปลี่ยนชื่อเป็นกรมส่งเสริมการเรียนรู้

ทั้งนี้ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป

2. เห็นชอบ รายละเอียดตัวชี้วัดและคะแนน การประเมิน ภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่งและวิชาชีพตามองค์ประกอบที่ ก.ค.ศ. กำหนด

ในการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุ และแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2567 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขอให้ ก.ค.ศ. พิจารณาให้ความเห็นชอบรายละเอียดตัวชี้วัดและคะแนน การประเมิน ภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่งและวิชาชีพ ตามองค์ประกอบที่ ก.ค.ศ. กำหนด ในการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุ และแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2567 ตามแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการสรรหาฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย (ว 2/2567) ข้อ 1.2 วรรคสอง ที่กำหนดให้ส่วนราชการนำเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณาให้ความเห็นชอบรายละเอียดตัวชี้วัดและคะแนนการประเมิน ภาค ค ก่อนแจ้ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ กค.ศ. ตั้งแล้วแต่กรณี เพื่อดำเนินการต่อไป นั้น

ที่ประชุม ก.ค.ศ. พิจารณาและเห็นชอบ ตัวชี้วัดและคะแนนการประเมิน ภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่งและวิชาชีพ ในการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2567 ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 16/2557 และ ว 17/2557 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเสนอ ซึ่งเป็นไปตามองค์ประกอบที่ ก.ค.ศ. กำหนด ตามแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการสรรหาบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย (ว 2/2567) และเป็นไปตามบริบทของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษา และสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ โดยตัวชี้วัดและค่าคะแนนให้ค่าน้ำหนักเกี่ยวกับประสบการณ์ในการสอนและการสมัครในภูมิลำเนาของผู้สมัครเป็นสำคัญ สอดคล้องกับนโยบาย เรียนดี มีความสุข

3. เห็นชอบ การแต่งตั้งประธานอนุกรรมการและอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา แทนตำแหน่งที่ว่าง

ตามที่ ก.ค.ศ. ได้ประกาศคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เรื่อง ตั้ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และเรื่อง ตั้ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาแล้ว เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 โดย อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 245 เขต มีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี ซึ่งจะครบวาระฯ ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 นั้น.
ขณะนี้มีประธานอนุกรรมการและอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 8 เขต พ้นจากการเป็นคณะอนุกรรมการฯ เนื่องจากลาออกจากตำแหน่ง มีการมอบหมายใหม่ และมีคุณสมบัติ ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ทำให้ตำแหน่งว่างลงก่อนครบวาระ ดังนั้น ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ดำเนินการสรรหาคณะอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. เพื่อให้ ก.ค.ศ. พิจารณาแต่งตั้ง ซึ่ง ก.ค.ศ. ได้พิจารณาแล้วว่าผู้ได้รับการเสนอรายชื่อทั้งหมดเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด จึงเห็นควรแต่งตั้งประธานอนุกรรมการและอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา แทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 8 เขต โดยมอบสำนักงาน ก.ค.ศ. ตรวจสอบความถูกต้องก่อนแจ้งให้ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป พร้อมทั้งแจ้งส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานด้านการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในส่วนภูมิภาคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลสูงสุด

4. อนุมัติ ย้ายและแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้ดำรงตำแหน่งและวิทยฐานะเดิม ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งใหม่ จำนวน 26 ราย ทั้งนี้ ให้มีมติย้ายและแต่งตั้ง ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2567

5. อนุมัติ บรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ได้รับคัดเลือกฯ ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 24 ราย โดยคงให้ได้รับวิทยฐานะตามที่ได้รับอนุมัติอยู่เดิม ทั้งนี้ ให้มีมติย้ายและแต่งตั้ง ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2567 เพื่อประโยชน์ของทางราชการ

รายละเอียดเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่