คุรุสภาขยายเวลา ให้สถานศึกษา ยื่นขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ และเงินช่วยเหลือครูอาวุโส ประจำปี 2563 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563
คุรุสภาขยายเวลา ให้สถานศึกษา ยื่นขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ และเงินช่วยเหลือครูอาวุโส ประจำปี 2563 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563

คุรุสภาขยายเวลา ให้สถานศึกษา ยื่นขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ และเงินช่วยเหลือครูอาวุโส ประจำปี 2563 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563

คุรุสภาขยายเวลา ให้สถานศึกษา ยื่นขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ และเงินช่วยเหลือครูอาวุโส ประจำปี 2563 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563
คุรุสภาขยายเวลา ให้สถานศึกษา ยื่นขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ และเงินช่วยเหลือครูอาวุโส ประจำปี 2563 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563

ว่าที่ร้อยตรี ดร. ธนุ วงษ์จินดา ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ตามที่สำนักงานเลขาธิการครุสภา โดยมูลนิธิช่วยครูอาวุโส ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ยื่นแบบคำขอเพื่อรับพระราชทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ประกาศนียบัตร และเงินช่วยเหลือครูอาวุโส ประจำปี 2563 จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือผู้แทนพระองค์ ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และให้สถานศึกษาตรวจสอบคุณสมบัติและบันทึกข้อมูลผู้ยื่นคำขอในสถานศึกษาผ่านระบบ KSP School (http://www.ksp.or.th/ksp2018/ksp-school
แล้วจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ยื่นคำขอ และจัดส่งบัญชี พร้อมแบบคำขอและเอกสารให้หน่วยงานต้นสังกัด ขยายเป็นวันที่ 31 กรกฎาคม 2563

ผู้มีสิทธิยื่นแบบคำขอฯ ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้  
1) เป็นสมาชิกคุรุสภาตามพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช 2488 ที่ได้รับสิทธิประโยชน์อยู่ก่อนพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 ใช้บังคับ หรือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาตามพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 ที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2563 

2) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพครู หรือผู้บริหารสถานศึกษา หรือผู้บริหารการศึกษา หรือศึกษานิเทศก์ จนถึงอายุ 60 ปีบริบูรณ์

3) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพครู หรือผู้บริหารสถานศึกษา หรือศึกษานิเทศก์ ที่ได้รับเงินเดือนประจำ และมีระยะเวลาประกอบวิชาชีพรวมกันไม่น้อยกว่า 30 ปี กรณีเป็นผู้บริหารการศึกษา ต้องเคยเป็นครู หรือผู้บริหารสถานศึกษา หรือศึกษานิเทศก์ มาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี และระยะเวลาในการประกอบวิชาชีพรวมกันไม่น้อยกว่า 30 ปี (กรณีผู้ที่อายุครบ 60 ปี ในปี พ.ศ. 2562 ให้นับถึงวันที่ 30 กันยายน 2562) ทั้งนี้ ไม่นับรวมเวลาราชการทวีคูณ และ

4) มีประวัติชีวิตการงานดีตลอดมา มีความประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดี ตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ หรือจารีตของครู ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย แม้จะได้รับการล้างมลทินแล้วก็ตาม

สำหรับวิธีดำเนินการ ให้ปฏิบัติดังนี้

1) สถานศึกษา รับแบบคำขอ ตรวจสอบคุณสมบัติ และบันทึกข้อมูลของผู้ยื่นคำขอ ในสถานศึกษา ผ่านระบบ KSP School (http://www.ksp.or.th/ksp2018/ksp-school) แล้วจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ยื่นคำขอ และจัดส่งบัญชี พร้อมแบบคำขอและเอกสาร ให้หน่วยงานต้นสังกัด ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 

2) หน่วยงานต้นสังกัด รับแบบคำขอจากสถานศึกษาในสังกัด ตรวจสอบคุณสมบัติ แบบคำขอและเอกสารประกอบการพิจารณาให้เป็นไปตามที่คุรุสภากำหนด แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้มีความประสงค์ขอรับการช่วยเหลือทางการเงินให้เหลือหน่วยงานละ 1 คน และจัดทำผลการคัดเลือก (แบบ มอ. 3) และบัญชีรายชื่อผู้ยื่นคำขอ ให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2563 กรณี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาให้ส่งบัญชีรายชื่อไปยังสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดที่สถานศึกษาตั้งอยู่ 

3) สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (งานคุรุสภาจังหวัด) รับเอกสารจากหน่วยงานต้นสังกัดในสังกัดจังหวัด และตรวจสอบเอกสาร แล้วบันทึกข้อมูลในระบบ TEPIS แล้วจัดส่งบัญชีรายชื่อพร้อมแบบคำขอฯ และเอกสารประกอบการพิจารณา ให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ภายในวันที่ 30 กันยายน 2563

ทั้งนี้ มูลนิธิฯ จะประกาศรายชื่อให้เป็นครูอาวุโส ประจำปี 2563 เฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และยื่นแบบคำขอ พร้อมเอกสาร ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากส่งเอกสารเพิ่มเติมภายหลังและมีคุณสมบัติครบถ้วน จะนำไปประกาศรายชื่อในปีถัดไป ทั้งนี้ การพิจารณาของคณะกรรมการมูลนิธิช่วยครูอาวุโสฯ ถือเป็นที่สุด

ในแต่ละปีมีครูอาวุโสที่ได้รับความยากลำบาก สมควรได้รับความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก แต่มูลนิธิฯสามารถให้ความช่วยเหลือได้ไม่ทั่วถึง
คุรุสภาขอเชิญผู้ที่มีความประสงค์ร่วมสมทบทุนมูลนิธิได้ที่ บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี “มูลนิธิช่วยครูอาวุโส ในพระบรมราชูปถัมภ์” ธนาคารกรุงไทย สาขากระทรวงศึกษาธิการ เลขที่บัญชี 059 – 0 – 24478 – 7 
พร้อมส่งสำเนาการโอนเงิน ระบุชื่อ – ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ มายังกลุ่มยกย่องและผดุงเกียรติวิชาชีพ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา โทร/โทรสาร 0 – 2280 – 4333 

ขอบคุณที่มา : แฟนเพจ อีทีวีแม็ค เวทีสาธารณะเพื่อการศึกษา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่