ศธ. ยืนยัน ครูคือกลุ่มเป้าหมายอันดับต้น ที่จะได้รับวัคซีนโควิด-19 ย้ำหากเปิดเทอม 14 มิถุนายน 2564 รร.ต้องขออนุญาต คกก.โรคติดต่อจังหวัด
ศธ. ยืนยัน ครูคือกลุ่มเป้าหมายอันดับต้น ที่จะได้รับวัคซีนโควิด-19 ย้ำหากเปิดเทอม 14 มิถุนายน 2564 รร.ต้องขออนุญาต คกก.โรคติดต่อจังหวัด

ศธ. ยืนยัน ครูคือกลุ่มเป้าหมายอันดับต้น ที่จะได้รับวัคซีนโควิด-19 ย้ำหากเปิดเทอม 14 มิถุนายน 2564 รร.ต้องขออนุญาต คกก.โรคติดต่อจังหวัด

วันนี้ (6 มิถุนายน 2564) ได้รับการเปิดเผยจาก ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ว่า นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 มอบให้กระทรวงศึกษาธิการสำรวจและดูแลให้ความช่วยเหลือนักเรียน ที่ครอบครัวประสบปัญหาและได้รับผลกระทบจากสภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) พร้อมให้เตรียมการเปิดภาคเรียน โดยจัดระบบการเรียนการสอนให้เป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

รมว.ศธ. กล่าวตอนหนึ่งว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้รับทราบถึงการปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคตามระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยทั่วราชอาณาจักร สำหรับสถานศึกษาและมาตรการแนวปฏิบัติของสถานศึกษา เพื่อดำเนินการเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2564 พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการ ดูแลให้ความช่วยเหลือนักเรียนที่ผู้ปกครองได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ในส่วนของการเปิดภาคเรียนในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 หากสถานศึกษาใดต้องการเปิดภาคเรียนในวันดังกล่าว ขอให้ประสานขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ตามเกณฑ์และข้อกำหนดของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงฝากให้ปฏิบัติตามแนวทางวิธีการจัดการเรียนการสอนตามสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด.นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังได้มีมติเห็นชอบให้ครูเป็นกลุ่มเป้าหมายอันดับต้นของการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งตนได้มอบหมายให้ นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นำเรื่องนี้ไปสู่การปฏิบัติ พร้อมเสนอต่อที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก. ศบค.) ให้มีการปฏิบัติอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรม

พร้อมทั้งได้กำชับให้ทำหนังสือแจ้งประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง เพื่อให้ได้รับทราบแนวทางการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีด้วย และให้ศึกษาธิการจังหวัดประสานข้อมูลกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ภายใต้การบริหารงานของ นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งได้มีการจัดเตรียมรายชื่อของครูและบุคลากรทางการศึกษาไว้อย่างครบถ้วนแล้ว เช่นเดียวกับการทำงานของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงศึกษาธิการ (ศบค.ศธ.) ที่ได้ดำเนินการจัดทำข้อมูลพร้อมผู้ประสาน เพื่อง่ายต่อการเข้ารับการฉีดวัคซีนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

ซึ่งล่าสุดได้รับรายงานการฉีดวัคซีนในหลายพื้นที่ อาทิ ประสานงานกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อฉีดวัคซีนให้กับครูนำร่องเขตปทุมวันและเขตสาทร เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา, ครูและบุคลากรทางการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วกว่า 3,000 คน และกลุ่มครูและบุคลากรทางการศึกษาจังหวัดบุรีรัมย์ ก็ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเช่นกัน รวมไปถึงจังหวัดอื่น ๆ ก็เริ่มทยอยได้รับวัคซีนกันอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้คาดว่า ในเร็ววันนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษาจะได้รับการฉีดวัคซีนมากที่สุด เพราะครูและบุคลากรทางการศึกษาถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง แม้ว่าจะมีการเรียนออนไลน์ แต่ครูก็ยังคงต้องทำงาน ออกพื้นที่ดูแลนักเรียนและเยี่ยมบ้านนักเรียน โดยเฉพาะกลุ่มครูที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เช่น กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นจังหวัดที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดในประเทศ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (7 มิถุนายน 2564) ตนจะไปให้กำลังใจครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เข้ารับการฉีดวัคซีนที่ ศูนย์วัคซีนสถานีกลางบางซื่อ” รมว.ศธ.กล่าว

ขอบคุณที่มา : Facebook ประชาสัมพันธ์ สพฐ.

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่