ก.ค.ศ.อนุมัติจัดสรรอัตราว่างเกษียณอายุ 23,321 อัตรา - หลักเกณฑ์สรรหาคนพิการ เข้ารับการบรรจุแต่งตั้งในทุกส่วนราชการ ศธ
ก.ค.ศ.อนุมัติจัดสรรอัตราว่างเกษียณอายุ 23,321 อัตรา - หลักเกณฑ์สรรหาคนพิการ เข้ารับการบรรจุแต่งตั้งในทุกส่วนราชการ ศธ

ก.ค.ศ.อนุมัติจัดสรรอัตราว่างเกษียณอายุ 23,321 อัตรา – หลักเกณฑ์สรรหาคนพิการ เข้ารับการบรรจุแต่งตั้งในทุกส่วนราชการ ศธ.

ก.ค.ศ.อนุมัติจัดสรรอัตราว่างเกษียณอายุ 23,321 อัตรา - หลักเกณฑ์สรรหาคนพิการ เข้ารับการบรรจุแต่งตั้งในทุกส่วนราชการ ศธ
ก.ค.ศ.อนุมัติจัดสรรอัตราว่างเกษียณอายุ 23,321 อัตรา – หลักเกณฑ์สรรหาคนพิการ เข้ารับการบรรจุแต่งตั้งในทุกส่วนราชการ ศธ

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม 2563 โดยมีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  เป็นประธาน  ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สำคัญ ดังนี้

อนุมัติจัดสรรอัตราว่างเกษียณอายุ 23,321 อัตรา 

ที่ประชุมอนุมัติ การจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จำนวนทั้งสิ้น 23,321 อัตราดังนี้

  • สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน  21,984  อัตรา
  • สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน  254  อัตรา โดยให้สงวนตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) จำนวน 2 อัตรา เนื่องจากอยู่ระหว่างการทบทวนแนวทางการจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการฯ ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ของ คปร.
  • สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จำนวน  1,083  อัตรา

โดยให้ส่วนราชการดำเนินการเกลี่ยอัตรากำลังที่ได้รับอนุมัติไปกำหนดตำแหน่งในหน่วยงานการศึกษาตามหลักเกณฑ์ ดังนี้

  • ให้กำหนดจำนวนและประเภทตำแหน่งตามเงื่อนไขที่ คปร. กำหนด โดยเคร่งครัด
  • ตำแหน่งที่กำหนดจะต้องมีจำนวนและประเภทตำแหน่งตามที่ ก.ค.ศ. อนุมัติ
  • ให้กำหนดตำแหน่งในหน่วยงานการศึกษาที่มีอัตรากำลังไม่เกินกรอบอัตรากำลังของประเภทตำแหน่งนั้น ๆ หรือเกณฑ์อัตรากำลังที่ ก.ค.ศ. กำหนด
  • ในการใช้อัตราที่ได้รับการจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการฯ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ให้ใช้ได้ไม่ก่อนวันที่ ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติ

ทั้งนี้ ให้ สพฐ., สอศ. และสำนักงาน กศน. สงวนอัตราตำแหน่งครูผู้ช่วยที่ได้รับการจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการฯ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 5,311 อัตรา จำนวน 320 อัตรา และจำนวน 10 อัตรา ตามลำดับ เพื่อรองรับการบรรจุบุคคลตามโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ตามมติคณะรัฐมนตรีและที่ประชุมกระทรวงศึกษาธิการ คือ จัดสรรอัตราตำแหน่งข้าราชการครูที่เกษียณอายุราชการไม่เกินร้อยละ 25 ของอัตราตำแหน่งข้าราชการครูที่เกษียณอายุราชการในรอบ 10 ปี  (ปี พ.ศ. 2559-2568) โดยให้เป็นไปตามข้อตกลงของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมกับส่วนราชการนั้น ๆ

เห็นชอบหลักเกณฑ์ฯ การคัดเลือกรอง ศธจ.และ ศธจ.

ที่ประชุมเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาผู้ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองศึกษาธิการจังหวัดและศึกษาธิการจังหวัด  เนื่องจากหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาผู้ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองศึกษาธิการจังหวัดและศึกษาธิการจังหวัด (ว 11/2563) กำหนดเงื่อนไขให้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือก ต้องได้รับการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด

ซึ่ง ก.ค.ศ. เห็นว่าการเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา ศึกษานิเทศก์ ศึกษาธิการจังหวัด และรองศึกษาธิการจังหวัด ควรกำหนดให้มี 4  องค์ประกอบ  คือ  การคัดกรองการคัดเลือก การพัฒนาก่อนการบรรจุและแต่งตั้ง และการประเมินสัมฤทธิ์ผลการปฏิบัติงานในหน้าที่เพื่อพัฒนาการศึกษา  ซึ่งในส่วนของการคัดกรองนั้น บังคับทักษะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 

ทั้งนี้ ให้นำหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ว 2/2562) มาเป็นฐานในการจัดทำ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาผู้ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองศึกษาธิการจังหวัด และศึกษาธิการจังหวัด โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

  • ให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ดำเนินการพัฒนา และจัดทำรายละเอียดหลักสูตร
  • ระยะเวลาการพัฒนา  รองศึกษาธิการจังหวัด  ไม่น้อยกว่า 35 วัน และ ศึกษาธิการจังหวัด ไม่น้อยกว่า 30 วัน
  • ขอบข่ายการพัฒนา ประกอบด้วย 3 ส่วน
    – ส่วนที่ 1 การเสริมสร้างสมรรถนะ (รองศึกษาธิการจังหวัด ไม่น้อยกว่า 15 วัน และศึกษาธิการจังหวัด ไม่น้อยกว่า 10 วัน)
    – ส่วนที่ 2 การเรียนรู้ในสภาพจริง (ไม่น้อยกว่า 15 วัน)
    – ส่วนที่ 3 การรายงานผลการเรียนรู้ และการนำเสนอแผนกลยุทธ์การพัฒนาการศึกษาในจังหวัด (ไม่น้อยกว่า 5 วัน)
  • วิธีการพัฒนา ใช้วิธีการเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้จากผู้ทรงคุณวุฒิ การเรียนรู้ในสภาพจริง การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ฯลฯ
  • เกณฑ์การประเมิน
     – ตำแหน่งรองศึกษาธิการจังหวัด ต้องมีระยะเวลาเข้ารับการพัฒนาไม่น้อยกว่าร้อยละ 80  ของระยะเวลาการพัฒนาทั้งหมด และต้องผ่านเกณฑ์การประเมินในแต่ละส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
     – ตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด ต้องมีระยะเวลาเข้ารับการพัฒนาไม่น้อยกว่า ร้อยละ 90  ของระยะเวลาการพัฒนาทั้งหมด และต้องผ่านเกณฑ์การประเมินในแต่ละส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80

เห็นชอบให้สรรหาคนพิการ เข้ารับการบรรจุแต่งตั้งในทุกส่วนราชการ

ที่ประชุมเห็นชอบ  ให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการดำเนินการสรรหาและเลือกสรรคนพิการ เข้ารับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด จำนวน 5 ตำแหน่ง ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการสรรหาและเลือกสรรคนพิการเข้าทำงานในส่วนราชการ ตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. นร 1004/ว 21 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2558 และหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1004/ว 17 ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2559 โดยอนุโลม

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการสรรหาและเลือกสรรคนพิการเข้ารับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ก.ค.ศ. ยังมิได้กำหนด ซึ่งตาม พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มาตรา 133  วรรคแรก กำหนดว่าในระหว่างที่ยังมิได้ตราพระราชกฤษฎีกา หรือ ก.ค.ศ. ยังมิได้ออกกฎ ข้อบังคับ ระเบียบหรือจัดทำมาตรฐานตำแหน่ง วิทยฐานะหรือกำหนดกรณีใดเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ให้นำพระราชกฤษฎีกา / กฎ  ก.พ.  / กฎ ก.ค./ มติ  ก.พ. / มติ ก.ค.  / มติคณะรัฐมนตรี / ระเบียบ มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง  หรือ กรณีที่  ก.ค.  หรือ ก.พ. กำหนดไว้แล้ว ซึ่งใช้บังคับอยู่เดิมมาใช้บังคับโดยอนุโลม

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารงานบุคคล เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ และเพื่อให้การดำเนินการสรรหาและเลือกสรรคนพิการเข้ารับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ของทุกส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ มีแนวปฏิบัติตามกฎหมายการจ้างเหมาคนพิการเป็นมาตรฐานเดียวกัน 

จึงเห็นชอบ ให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการสรรหาและเลือกสรรคนพิการเข้ารับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด จำนวน 5 ตำแหน่ง ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการสรรหาและเลือกสรรคนพิการเข้าทำงานในส่วนราชการ ตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1004/ว 21ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2558 และหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1004/ว 17 ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2559 มาใช้บังคับโดยอนุโลม

 พร้อมกันนี้ได้เห็นชอบ  ให้ทุกส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการสรรหาและเลือกสรรคนพิการเข้ารับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) โดยให้นำหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่ ก.พ. กำหนด (ว 21/2558 และ ว 17/2559) มาใช้บังคับโดยอนุโลม

ที่มา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่