กอศ. เผย เตรียมเปิดห้องเรียนอาชีวะระดับม.1-3 ในโรงเรียนสังกัดสพฐ.ทั่วประเทศ ดีเดย์ พ.ค.นี้
กอศ. เผย เตรียมเปิดห้องเรียนอาชีวะระดับม.1-3 ในโรงเรียนสังกัดสพฐ.ทั่วประเทศ ดีเดย์ พ.ค.นี้

กอศ. เผย เตรียมเปิดห้องเรียนอาชีวะระดับม.1-3 ในโรงเรียนสังกัดสพฐ.ทั่วประเทศ ดีเดย์ พ.ค.นี้

เลขาธิการ กอศ. เผย เตรียมเปิดห้องเรียนอาชีวะระดับม.1-3 ในโรงเรียนสังกัดสพฐ.ทั่วประเทศ ดีเดย์ ภาคเรียนที่ 1/2563 จัดหลักสูตรวิชาชีพให้เด็กเลือกเรียนตามความถนัด ชี้ หนุนนโยบายรมว.ศธ.ที่ต้องการเพิ่มผู้เรียนสายอาชีพ

กอศ. เผย เตรียมเปิดห้องเรียนอาชีวะระดับม.1-3 ในโรงเรียนสังกัดสพฐ.ทั่วประเทศ ดีเดย์ พ.ค.นี้
กอศ. เผย เตรียมเปิดห้องเรียนอาชีวะระดับม.1-3 ในโรงเรียนสังกัดสพฐ.ทั่วประเทศ ดีเดย์ พ.ค.นี้ 2

เมื่อวันที่ 9 มี.ค.นายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้นโยบายมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ไปคิดการเพิ่มผู้เรียนสายอาชีพว่าจะมีแนวทางใดบ้าง ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ทั้งสพฐ.และ สอศ.ได้ประชุมร่วมกันตามข้อสั่งการของ รมว.ศธ. มีข้อสรุปว่า จะมีการเปิดห้องเรียนอาชีวศึกษาขึ้นในโรงเรียนสังกัดสพฐ.ทั่วประเทศ

โดยจะเป็นการจัดการเรียนการสอนสายอาชีพตั้งแต่ระดับชั้นมัยมศึกษาปีที่ 1-3 สำหรับหลักสูตรการเรียนการสอนนั้นจะเป็นหลักสูตรด้านวิชาชีพ เช่น หลักสูตรโลโบติกส์ ให้เด็กได้เรียนตามสิ่งที่ตัวเองชอบ เป็นต้น ซึ่งตนคิดว่าเด็กจะสนใจเรียนวิชาชีพมากขึ้น โดยขณะนี้กำลังวางแผนดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรอยู่

เลขาธิการ กอศ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับหลักสูตรการเรียนการสอนจะเป็นหลักสูตรที่ได้รับความนิยมและเป็นหลักสูตรที่เป็นความต้องการของตลาดแรงงาน เพื่อที่เด็กสำเร็จการศึกษาแล้วมีทักษะวิชาชีพก็อาจเป็นเจ้าของสถานประกอบการเองหรือมีงานทำตามสาขาวิชาชีพเหล่านั้นที่ตัวเองเรียนมา หรือเด็กอาจจะอยากเรียนเพิ่มเติมต่อในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ได้ ซึ่งจะเป็นวิธีการหนึ่งในการเพิ่มผู้เรียนสายอาชีพเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้การดำเนินโครงการเปิดห้องเรียนอาชีวศึกษาในโรงเรียนสพฐ.นี้จะตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ เนื่องจากประเทศไทยยังขาดแคลนช่างเทคนิคและช่างเทคโนโลยี อีกทั้งเด็กเรียนจบแล้วมีงานทำอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามห้องเรียนอาชีวะในสพฐ.จะเริ่มคิกออฟในภาคเรียนที่ 1/2563 นี้ทันที

ขอบคุณที่มาของข่าวและอ่านต่อได้ที่ : เดลินิวส์ออนไลน์ 9 มีนาคม 2563

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่