กมว.เห็นต่าง !!! สอบวิชาเอกเพื่อขอรับ “ตั๋วครู” ยังจำเป็น
กมว.เห็นต่าง !!! สอบวิชาเอกเพื่อขอรับ “ตั๋วครู” ยังจำเป็น

กมว.เห็นต่าง !!! สอบวิชาเอกเพื่อขอรับ “ตั๋วครู” ยังจำเป็น

ตามที่คณะกรรมการคุรุสภามีมติให้ตัดหมวดความรู้วิชาเอกออกไป จากการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ด้านความรู้ และประสบการณ์วิชาชีพ ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ในการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ที่จะจัดขึ้นครั้งที่ 2 ในเดือนต.ค.นั้น รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) กล่าวว่า กมว.ได้มีมติยืนยันว่าต้องสอบวิชาเอก และหากไม่มีวิธีการอื่นที่น่าเชื่อถือได้ เรื่อง ความรู้ความสามารถวิชาเอก ยังคงต้องทดสอบไปก่อน

สาเหตุที่ผู้เรียนหลักสูตร ป.บัณฑิต สอบวิชาเอกผ่านน้อย เพราะความจริงที่ปรากฏก็คือผู้เรียนป.บัณฑิตมีไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 30-40 ที่สอนไม่ตรงวิชาเอกที่จบมา เช่น จบการท่องเที่ยวไปสอนภาษาจีน เป็นต้น เลยขอสอบวิชาภาษาจีนที่ตนเองสอนเพราะไม่มีวิชาการท่องเที่ยวให้ทดสอบ การสอนไม่ตรงวิชาเฉพาะ (วิชาเอก) ก็ไม่เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพครูอยู่แล้ว เพราะกำหนดให้ปฏิบัติการสอนวิชาเฉพาะ นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้เรียน ป.บัณฑิตที่เข้ารับการทดสอบรุ่นแรกสอบไม่ผ่านวิชาเอกเกินครึ่งของผู้เข้ารับการทดสอบเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยที่ผู้เรียนหลักสูตรครูจริงๆ ทั้ง 4 ปี และ 5 ปีที่เข้าศึกษาตั้งแต่ปี การศึกษา 2562 ยังไม่ได้รับการทดสอบเลย เพราะจะมีสิทธิสอบครั้งแรกในปี 2565 ก็มายกเลิกการสอบวิชาเอก ทั้งๆที่กลุ่มเป้าหมายนิสิต นักศึกษาครู ในสถาบันผลิตครูจริงๆ ยังไม่ได้เข้ารับการทดสอบเลย การคิดยกเลิกการสอบวิชาเอกก่อนที่กลุ่มเป้าหมายหลักจะทดสอบ จึงไม่ทราบว่าสำนักงานคุรุสภาใช้หลักคิดอะไรที่น่าเชื่อถือทางวิชาชีพ

“ความพยายามสร้างกระแสให้มีการยกเลิกการสอบวิชาเอก หรือให้ผู้เรียน ป.บัณฑิตทุกคน ได้ใบประกอบวิชาชีพครู ของนักการเมืองบางคนใช้หลักคิดอะไร หรือต้องการคะแนนเสียงนิยมมากกว่าคุณภาพครูที่จะมีผลต่อคุณภาพนักเรียน และผู้เรียน ป.บัณฑิต รุ่นแรกที่ผ่านการสอบมาเมื่อต้นปีบางกลุ่มที่พยายามอ้างข้อสอบยาก ข้อสอบไม่เป็นไปตามผังข้อสอบ ก็เป็นเรื่องที่รับฟังได้มีเหตุและคงต้องให้ สทศ.ในฐานะผู้รับผิดชอบการออกข้อสอบทำการทบทวน หากเป็นจริงก็ต้องปรับแก้ไข” รศ.ดร.เอกชัย กล่าว

และว่า ตนคิดว่าเรื่องการทดสอบเพื่อขอรับใบประกอบวิชาชีพตามมาตรฐานวิชาชีพ กับการปฏิบัติการสอน ในสถานศึกษา และการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเป็นคนละวัตถุประสงค์กัน ไม่สามารถนำมาเป็นข้ออ้างที่จะไม่ทดสอบวิชาเอกไ้ด้ เพราะถ้าจะอ้างเช่นนั้นการทดสอบทุกวิชาก็ไม่จำเป็นเช่นกันเพราะหลายวิชาการสอบแข่งขันบรรจุก็มีการทดสอบอยู่แล้วเช่นกัน ซึ่งตรรกะการคิดและผลกระทบที่ตามมาเกี่ยวกับคุณภาพของครูสำคัญ ถ้าเมื่อใดที่เล่นการเมืองในการบริหารวิชาชีพครู หรือวิชาชีพควบคุมอย่างที่เห็นและเป็นอยู่ก็จะส่งผลถึงคุณภาพเด็ก.

ขอบคุณที่มาและอ่านต่อ : Facebook At_HeaR ข่าวจริงเข้าหู

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่