เปิดเว็บไซต์ ‘ยิ่งเรียนยิ่งรู้’ Thailand Learning.Org เว็บพอร์ทัลรวมสื่อและเนื้อหาออนไลน์
เปิดเว็บไซต์ ‘ยิ่งเรียนยิ่งรู้’ Thailand Learning.Org เว็บพอร์ทัลรวมสื่อและเนื้อหาออนไลน์

เปิดเว็บไซต์ ‘ยิ่งเรียนยิ่งรู้’ Thailand Learning.Org เว็บพอร์ทัลรวมสื่อและเนื้อหาออนไลน์

เปิดเว็บไซต์ 'ยิ่งเรียนยิ่งรู้' Thailand Learning.Org เว็บพอร์ทัลรวมสื่อและเนื้อหาออนไลน์
เปิดเว็บไซต์ ‘ยิ่งเรียนยิ่งรู้’ Thailand Learning.Org เว็บพอร์ทัลรวมสื่อและเนื้อหาออนไลน์

มูลนิธิเอเชีย (The Asia Foundation) ประเทศไทยจึงร่วมมือกับสถานฑูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยสร้างเว็บพอร์ทัลเพื่อการเรียนรู้ให้แก่ครู นักเรียน และผู้ปกครองภายใต้ชื่อ ‘ยิ่งเรียนยิ่งรู้’ หรือ www.thailandlearning.org โดยเว็บไซต์ดังกล่าวถูกจัดทำขึ้นตั้งแต่วันที่17 เมษายน 2563 เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ในแบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์โดยเฉพาะในช่วงเวลาวิกฤตที่เกิดขึ้นมีการรวบรวมสื่อการเรียนการสอนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รูปแบบการใช้งานของเว็บไซต์ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้สะดวกโดยแยกออกเป็น 3 ฟังชันก์หลักเพื่อให้ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนรู้ได้ตามความถนัดและความสนใจ ได้แก่

ฟังชันก์เรียนรู้ จะแบ่งเนื้อหาออกเป็นรายวิชาและรายชั้นปีเพื่อความสะดวก นอกจากนี้ยังมีการแยกรูปแบบของการเรียนรู้ออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เช่น การเรียนรู้ผ่านการอ่าน ฟัง พูดคุย หรือเกม เป็นต้นฟังชันก์ทัศนศึกษา เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์หรือแหล่งเรียนรู้จากทั่วโลกผ่านหน้าจอ หรือ virtual tour ที่สามารถให้ความรู้นักเรียนได้มากกว่าในตำราฟังชันก์เครื่องมือรวบรวมโปรแกรมและแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดประชุมหรือการเรียนการสอนออนไลน์ให้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เปิดเว็บไซต์ 'ยิ่งเรียนยิ่งรู้' Thailand Learning.Org เว็บพอร์ทัลรวมสื่อและเนื้อหาออนไลน์
เปิดเว็บไซต์ ‘ยิ่งเรียนยิ่งรู้’ Thailand Learning.Org เว็บพอร์ทัลรวมสื่อและเนื้อหาออนไลน์

นอกจากนี้ ดร. รัตนา แซ่เล้า เจ้าหน้าที่โครงการอาวุโสและผู้เชี่ยวชาญทางการศึกษาประจำมูลนิธิเอเชียเชื่อว่าภัยโควิด19 มีผลกระทบของการศึกษาอย่างมหาศาลเนื่องจากการมีการสั่งปิดสถานศึกษาทั่วโลก “ประเทศไทยหลังโควิดหน้าตาไม่เหมือนเดิมค่ะ เรื่องเทคโนโลยีเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพัฒนาต่อไปการศึกษาของไทยมีการพูดถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการศึกษาอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติปี 2542 หากแต่มันเป็นความพยายามที่เกิดขึ้นแบบเนืองๆ เรามักพูดถึงเทคโนโลยีในบริบทของสารสนเทศหรือคำศัพท์หรูๆ จากต่างประเทศ แต่ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมามันสามารถพิสูจน์ให้ เด็กนักเรียน ครู ผู้บริหาร นักวิชาการได้ตระหนักแล้วว่าการไม่มีเทคโนโลยีทำให้เราไม่สามารถเชื่อมต่อหากันและกันได้” วิกฤติโควิด 19 เป็นเหมือนสัญญาณว่าการเรียนรู้ต้องเปลี่ยนแปลงไป นักเรียนต้องกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ถึงแม้นักเรียนจะสามารถกลับไปโรงเรียนได้ แต่เทคโนโลยีกับการศึกษายังจำเป็นของคู่กันและพัฒนาต่อไปเพื่อทำให้การเรียนรู้ตลอดชีวิตเกิดขึ้นได้ โดย ดร. รัตนาได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ถึงแม้น้องๆ ไม่ได้มีมือถือหรือคอมพิวเตอร์ อย่ามองว่ามันเป็นประเด็นในการที่จะหยุดการเรียนรู้ของเราแต่ควรจะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เรามุ่งมั่นหาทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเรียนรู้จากสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว”

ขอบคุณที่มา : https://www.ryt9.com/s/prg/3133742

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่