ครม.อนุมัติแล้ว โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย จ้างบัณฑิตจบใหม่ 60,000 คน
ครม.อนุมัติแล้ว โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย จ้างบัณฑิตจบใหม่ 60,000 คน

ครม.อนุมัติแล้ว โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย จ้างบัณฑิตจบใหม่ 60,000 คน จ้างงาน 20 อัตราต่อตำบล เพื่อช่วยในกิจกรรมพัฒนาต่างๆ ของแต่ละตำบล โดยผู้ที่ได้รับการจ้างงานจะได้รับการพัฒนาทักษะพื้นฐานที่สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ ทักษะด้านดิจิตอล ทักษะด้านการเงิน ทักษะด้านสังคมและภาษาอังกฤษ

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2563 ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติอนุมัติโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย) ตามที่ อว. เสนอ โดยมีเป้าหมายหลักคือการลดความยากจนแบบมีเป้าหมาย ในระยะแรกจะดำเนินการในพื้นที่ 3,000ตำบลทั่วประเทศ โดยมีมหาวิทยาลัย 73 แห่ง ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนในแต่พื้นที่ งบประมาณรวม 10,629,600,000 บาท ทั้งนี้ ในการดำเนินการในพื้นที่จะเป็นไปตามบริบท สภาพปัญญา สิ่งแวดล้อม ทรัพยากร ความหลากหลายทางชีวภาพและความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่สำคัญของแต่ละพื้นที่ โดยจะเป็นการนำองค์ความรู้เทคโนโลยี นวัตกรรมของมหาวิทยาลัย หน่วยงานภายใน อว. และหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนไปช่วยในการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมในตำบล อาทิ การสร้างและพัฒนาอาชีพใหม่ การส่งเสริมสร้างความเข้มแข็งของวิสาหกิจชุมชน การพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน การส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน การพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น สุขภาพ การศึกษา และความปลอดภัยในชุมชน การฟื้นฟูและรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

รมว.อว. กล่าวต่อไปว่า สำหรับการจ้างงาน จะมีการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่ ประชาชนในพื้นที่และนักศึกษารวมทั้งโครงการจะมีการจ้างงานไม่น้อยกว่า 60,000 คน โดยจะมีการจ้างงาน 20 อัตราต่อตำบล เพื่อช่วยในกิจกรรมพัฒนาต่างๆ ของแต่ละตำบล โดยผู้ที่ได้รับการจ้างงานจะได้รับการพัฒนาทักษะพื้นฐานที่สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ ทักษะด้านดิจิตอล ทักษะด้านการเงิน ทักษะด้านสังคมและภาษาอังกฤษ ควบคู่ไปกับทักษะเฉพาะด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในพื้นที่ โดยเป้าหมายของโครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย คือการยกระดับตำบลที่มีความพร้อมสูงไปสู่ระดับความยั่งยืน ประมาณ 750 ตำบลหรือ 25 เปอร์เซ็นต์ของตำบลในโครงการที่มีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสังคม สามารถพัฒนาชุมชนของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง ยกระดับตำบลที่มีความพร้อมปานกลางไปสู่ระดับความพอเพียง ประมาณ 1,500 ตำบลหรือ 50 เปอร์เซ็นต์ของตำบลโครงการที่มีความสามารถในการพึ่งพาตนเองในระดับหนึ่งจากทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรมที่มีอยู่ในพื้นที่และมีความพร้อมที่จะก้าวไปสู่ตำบลที่มีความยั่งยืน

ขอบคุณที่มา : Focusnews วันที่ 6 ตุลาคม 2563

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่