แนะรัฐบาลลดดอกเบี้ย ปรับโครงสร้างแก้ปัญหาหนี้สินครู มั่นใจภายใน 5 ปีจะลดลงเกือบครึ่ง
แนะรัฐบาลลดดอกเบี้ย ปรับโครงสร้างแก้ปัญหาหนี้สินครู มั่นใจภายใน 5 ปีจะลดลงเกือบครึ่ง

แนะรัฐบาลลดดอกเบี้ย ปรับโครงสร้างแก้ปัญหาหนี้สินครู มั่นใจภายใน 5 ปีจะลดลงเกือบครึ่ง

พ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวอภิปรายในญัตติการแก้ไขหนี้สินครู เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ว่า อาชีพครูเริ่มเป็นหนี้ตั้งแต่มีการตั้งสหกรณ์ขึ้นมา และสหกรณ์ให้ครูกู้ได้เกินมูลค่าหุ้นที่มี หลังจากนั้นก็เกิดการกู้เกินตัว สร้างหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสาเหตุของการมีหนี้สินถึง จำนวน 1.4 ล้านล้านบาทของครู มาจากการขาดความคิดแบบเศรษฐกิจพอเพียง ใช้ชีวิตฟุ้งเพ้อ ใช้เงินเกินฐานะ บริโภคนิยม ทำให้เกิดการกู้แบบลืมตัว ไม่วางแผนการกู้เพื่อสร้างรายได้ที่ดีพอ

“พอกู้ได้ก็กู้เลย และฝ่ายบริหารของกระทรวงศึกษาธิการ สถาบันการเงิน ดำเนินนโยบายผิดพลาด และส่วนหนึ่งเกิดมาการมีเงินทอน จากการดำเนินงาน จึงเป็นทางสองแพร่งที่รัฐบาลต้องเลือก ในการแก้ไขหนี้สินครู คือ ปล่อยให้ครูแก้ไขเอง หรือรัฐบาลเข้าไปช่วยแก้ไข” นพ.ระวี กล่าว

ทั้งนี้ สาเหตุที่รัฐต้องช่วยเพราะว่าครู ประมาณ 100,000 คน ที่เป็น NPL ต้องคอยหนีเจ้าหนี้ หนีครูที่เป็นผู้ค้ำประกัน ซึ่งครูจะทยอยถูกยึดทรัพย์ ถูกฟ้องล้มละลายประมาณ 100,000 กว่าคน ปัญหาที่เกิดขึ้น จะกระทบต่อปฏิรูปการศึกษา 15 ล้านคน ถ้ารัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือ ต้องมีหลักการสำคัญ คือ ต้องไม่นำภาษีของประชาชนมาแบกหนี้สินครู ปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ย และหยุดสร้างหนี้ โดยใช้วิถีเศรษฐกิจพอเพียง

อย่างไรก็ดี การปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ย ทำได้โดยการให้สหกรณ์ครู ซื้อหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง ส่วนธนาคารที่ดอกเบี้ยไม่สูง ขอให้ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือแค่ 4% แต่ครูต้องช่วยเหลือครูด้วยกันเอง โดยให้สหกรณ์ครูลดดอกเบี้ยเงินฝาก และดอกเบี้ยเงินปันผลให้เหลือแค่ 2-3 % จากนั้นให้ค่าใช้จ่ายสหกรณ์ 1-2 % และให้คิดดอกเบี้ยเงินกู้ กับครูลูกหนี้เท่ากับ 4 %

ขณะเดียวกัน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. ที่ดอกเบี้ยไม่สูงมาก ให้ลดดอกเบี้ยเป็นไม่เกิน 4% ธนาคารออมสิน ขอให้ลดดอกเบี้ยเหลือ 4% รัฐบาลออกพันธบัตรกู้เงิน ประมาณ 3-4 แสนล้านบาท ดอกเบี้ย 2.0- 2.5% ระยะเวลา 5 ปี ออกขายกับประชาชนเพื่อ ช่วยสหกรณ์ครูนพ.ระวี กล่าวต่อว่า เพื่อซื้อหนี้จากสถาบันการเงินที่ดอกเบี้ยสูง และคืนเงินที่สหกรณ์ครูกู้จากธนาคารอื่นที่เสียดอกเบี้ยเกิน 3% เพื่อให้สหกรณ์คิดดอกเบี้ยครู 4% และช่วยธนาคารออมสิน เพื่อให้ธนาคารออมสินลดดอกเบี้ยให้ครูเหลือ 4%แต่สหกรณ์ครู และธนาคารออมสินต้องรับผิดชอบ ดอกเบี้ยทั้งหมดของพันธบัตร ไม่ให้เป็นภาระของประชาชนแม้แต่บาทเดียว

“การดำเนินการตามหลักการนี้ คาดว่าหนี้ครูจะไปอยู่ที่สหกรณ์ครู 113 แห่ง เป็นเงิน 1 ล้านล้านบาท อยู่ที่ธนาคารออมสิน 400,000 ล้านบาท อยู่ที่ ธอส. 60,000 ล้านบาท และทุกแห่งคิดดอกเบี้ยจากครู 4% ทุกแห่ง โดยทางรัฐไม่ต้องนำภาษีประชาชน มาแบกหนี้สินครูเลย เมื่อการช่วยเหลือครบ 5 ปี คาดว่าหนี้สินครูจะลดลง 600,000 ล้านบาท คงเหลือหนี้จาก 1.4 ล้านล้านบาท เป็น 800,000 ล้านบาท หลังจากนั้นสหกรณ์ครู และธนาคารออมสิน ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพันธบัตรรัฐบาลแล้ว” นพ.ระวี ระบุ

ขอบคุณที่มา : เว็บไซต์เนชั่นออนไลน์ วันที่ 31 ก.ค. 2563

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่