เลขาธิการ กพฐ. สั่ง 225 เขตพื้นที่เยี่ยมบ้านนักเรียนรายบุคคล แก้ปัญหาทดสอบระบบเรียนออนไลน์
เลขาธิการ กพฐ. สั่ง 225 เขตพื้นที่เยี่ยมบ้านนักเรียนรายบุคคล แก้ปัญหาทดสอบระบบเรียนออนไลน์

เลขาธิการ กพฐ. สั่ง 225 เขตพื้นที่เยี่ยมบ้านนักเรียนรายบุคคล แก้ปัญหาทดสอบระบบเรียนออนไลน์ พร้อมส่งครูภาษาจากบูธแคมป์ช่วยสอนร่วมกับครูจากสื่อ DLTV เผย 30 พ.ค.นี้สรุปการประเมินทดสอบระบบ

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวภายหลังการประชุมมอบนโยบายผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนท์ให้แก่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จำนวน 225 เขตเรื่องการจัดการศึกษาระบบการศึกษาทางไกลผ่านโทรทัศน์ดิจิทัลและระบบออนไลน์ว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เริ่มทดสอบระบบการจัดการเรียนการสอนผ่านทีวีและออนไลน์แล้วตั้งแต่วันที่ 18พ.ค.-30 มิ.ย.

ดังนั้นขอให้เขตพื้นที่ทุกแห่งได้ลงพื้นที่ติดตามและสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้ปกครองและนักเรียนถึงการเรียนผ่านระบบนี้ด้วย โดยจะต้องลงไปสำรวจเด็กเป็นรายบุคคลและรายโรงเรียนว่าปัญหาจากการทดสอบระบบเหล่านี้มีอะไรบ้าง เพื่อนำไปสู่การแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ต่อไป

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้จากการทดสอบระบบการเรียนผ่านทีวีตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.จนถึงวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่พบคือ บ้านนักเรียนไม่สามารถปรับจูนช่องทีวีให้รับสื่อการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ DLTV ของมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ได้ โดยในการแก้ปัญหาจุดนี้สพฐ.ได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)  และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในการจัดหาแจกกล่องรับสัญญาณดิจิทัลจำนวน 2 ล้านกล่องให้แก่บ้านนักเรียนที่ไม่มีกล่องรับสัญญาณ ส่วนเนื้อหาการเรียนการสอนจากสื่อ DLTV ที่มีข้อผิดพลาดนั้น ได้ประสานมูลนิธิฯเพื่อปรับแก้ไขให้หลักสูตรมีความเชื่อมต่อกันมากขึ้นแล้ว นอกจากนี้ สพฐ.จะจัดครูภาษาอังกฤษจากโครงการศูนย์อบรมครูภาษาอังกฤษระดับภูมิภาค (Regional English Training Centres) หรือที่รู้จักกันในนามว่า”โครงการ Bootcamp” เข้ามาช่วยเสริมกับครูผู้สอนจากมูลนิธิฯ

ดร.อำนาจ กล่าวอีกว่า สำหรับการทดสอบระบการเรียนผ่านทีวีและระบบออนไลน์ สพฐ.จะมีการประเมินระบบ 3 รอบ แบ่งเป็นรอบการประเมินในวันที่ 30 พ.ค. รอบกลางเดือนมิ.ย. และรอบวันที่ 30 มิ.ย. เพื่อดูความพร้อมทั้งหมด ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าหากเปิดเรียนในวันที่ 1 ก.ค.สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่พ้นวิกฤตและโรงเรียนในกลุ่มจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อยังมีตัวเลขสูงอยู่ก็จะมีความพร้อมสามารถจัดการเรียนการสอนผ่านทีวีและระบบออนไลน์ได้ ดังนั้นขอย้ำให้สังคมรับทราบเป็นแนวทางเดียวกันว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในการเปิดภาคเรียนโรงเรียนสามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติและนักเรียนได้เรียนกับครูในห้องเรียน ซึ่งการทดสอบระบบต่างๆเหล่านี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคระบาดหากยังไม่พ้นวิกฤตเท่านั้น อีกทั้งเป็นการเตรียมปูพื้นฐานให้เด็กก่อนเปิดภาคเรียนใหม่ โดยจะไม่มีการประเมินหรือวัดผลนักเรียนใดๆทั้งสิ้น

ขอบคุณที่มาและอ่านต่อที่ : เดลินิวส์ออนไลน์ วันที่ 20 พฤษภาคม 2563

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่