ทำหลักสูตรออนไลน์ยุติบูลลี่รังแกกัน
ทำหลักสูตรออนไลน์ยุติบูลลี่รังแกกัน

สพฐ.ทำหลักสูตรออนไลน์ยุติบูลลี่รังแกกัน

สพฐ. จับมือ มูลนิธิรักษ์ไทย เปิดโครงการ “นักเรียนก้าวทันยุติการรังแกในโรงเรียนและโซเชียลมีเดีย” ทำหลักสูตรออนไลน์นำร่องใช้ใน 50 โรงเรียน

เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่โรงแรมเดอะสุโกศล ราชเทวี กรุงเทพฯ มีพิธีเปิดโครงการนักเรียนก้าวทันยุติการรังแกในโรงเรียนและโซเชียลมีเดีย โดยมี ว่าที่ ร.ต. ธนุ วงษ์จินดา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) นายพร้อมบุญ พานิชภักดิ์เลขาธิการมูลนิธิรักษ์ไทย นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พร้อมด้วยครูและนักเรียนในโครงการ เข้าร่วมในพิธี ซึ่ง ว่าที่ ร.ต. ธนุ กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มีการกำหนดแนวปฏิบัติลดและยุติการรังแก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งภายใต้นโยบายการปกป้องคุ้มครองเด็ก 

โดย สพฐ. จะร่วมกับมูลนิธิรักษ์ไทย และเครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้านการยุติการรังแก จัดทำหลักสูตรออนไลน์ เพื่อให้นักเรียนและครูผู้สอนใน29,715 โรงเรียนทั่วประเทศนำไปใช้ โดยผ่านกระบวนการจัดกิจกรรมภายใต้โครงการนักเรียนก้าวทันยุติการรังแกในโรงเรียนและโซเชียลมีเดีย 

ร.ต.ธนุ กล่าวต่อไปว่า เบื้องต้นจะดำเนินการใช้หลักสูตรออนไลน์กับโรงเรียนนำร่องในโครงการ จำนวน 50 โรงเรียนจาก 5 ภูมิภาค เพื่อพัฒนาครูให้มีความรู้ความเข้าใจเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการล้อ แกล้ง รังแกกันในสถานศึกษา โดยการจัดทําเป็นวิดีโอออนไลน์ และจัดทำระบบ E-Training สำหรับครูและบุคลากร E-Learning สำหรับนักเรียน 

“โครงการนี้ มุ่งเน้นแก้ปัญหาการรังแกในโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาซึ่งเป็นการแก้ปัญหากับกลุ่มที่อยู่ในวงจรการรังแกมากที่สุด โดยสาเหตุที่คนมีทัศนคติเชิงลบ รังเกียจ และมีพฤติกรรมก้าวร้าว เป็นเพราะการเรียนรู้ทางสังคมที่สื่อมีส่วนสำคัญในการก่อให้เกิดขึ้น รวมทั้งพฤติกรรมการรังแกที่หวังให้มีคนเชียร์ ร่วมในการรังแก เป็นพฤติกรรมที่เข้าลักษณะการรังแกแบบบูลลี่ (Bully) ซึ่งเป้าหมายสูงสุดของโครงการ คือการให้เด็กและเยาวชนในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานได้รับการเสริมสร้างคุณค่า การรับรู้ และพฤติกรรมที่เข้าใจการอยู่ร่วมกัน

ท่ามกลางความหลากหลายพร้อมทั้งเข้าใจอิทธิพลของสื่อที่ไม่ได้สร้างการรังเกียจ การเกลียด และพฤติกรรมรุนแรง และสามารถทดแทนโดยสื่อที่ดีสร้างสรรค์ พร้อมกับให้ครูมีความเข้าใจและทักษะในการแนะนำ และให้การปรึกษากับเด็กที่เป็นผู้รังแกหรือผู้ถูกรังแกได้อย่างถูกต้องเหมาะสมด้วย” ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. กล่าว

ทั้งนี้ การดำเนินงานของโครงการ จะมีการศึกษาองค์ความรู้ที่มาจากข้อมูลประจักษ์ในเรื่องการรังแกในโรงเรียนสู่โซเชียลมีเดีย และพัฒนาเครื่องมือโปรแกรมการสำรวจและวิเคราะห์ที่สามารถติดตามสถานการณ์การล้อ แกล้ง รังแก ของนักเรียนในโรงเรียนสังกัด สพฐ. โดยข้อมูลจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักเรียนระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา สร้างความเข้าใจการรังแกและสาเหตุที่มาจากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะสื่อ ร่วมกันจัดกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาการล้อ แกล้ง รังแกกันในโรงเรียนและโลกออนไลน์ 

รวมถึงพัฒนาครูในสังกัด สพฐ. ให้เกิดความเข้าใจและเกิดความตระหนักถึงสถานการณ์ปัญหาการล้อ แกล้ง รังแกกันในโรงเรียนและโลกออนไลน์ ให้สามารถจัดการแก้ไขปัญหาได้ และสร้างเครือข่าย”สื่อดี ยุติการรังแก” ที่มีเด็กเยาวชน ผู้ปกครอง และผู้มีอิทธิพลทางสื่อ ร่วมรณรงค์สร้างความเข้าใจ เสนอแนวทางแก้ไข หรือป้องกันปัญหาการล้อ แกล้ง รังแกกันในโรงเรียนเพื่อการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ที่มารายละเอียดข่าว : เดลินิวส์ออนไลน์ 7 กุมภาพันธ์ 2563

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่