ศธ.ชง ครม.เพิ่มเงินอุดหนุนอาหารกลางวันนักเรียน อัตราแบบก้าวหน้าขั้นบันได 24-36 บาท จากเดิม 20 บาท
ศธ.ชง ครม.เพิ่มเงินอุดหนุนอาหารกลางวันนักเรียน อัตราแบบก้าวหน้าขั้นบันได 24-36 บาท จากเดิม 20 บาท

ศธ.ชง ครม.เพิ่มเงินอุดหนุนอาหารกลางวันนักเรียน อัตราแบบก้าวหน้าขั้นบันได 24-36 บาท จากเดิม 20 บาท

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เสนอผลวิเคราะห์การบริหารจัดการโครงการอาหารกลางวันของนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษาทั่วประเทศให้ที่ประชุมครม.พิจารณา

เนื่องจากการบริหารจัดการโครงการอาหารกลางวันมีปัญหาหลายส่วน โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณอาหารกลางวันที่ได้รับในอัตราหัวละ 20 บาทต่อวัน จำนวน 200 วันที่ถือว่ายังไม่ได้มีการพิจารณาปรับปรุงมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว ซึ่งที่ประชุมได้อนุมัติในหลักการแต่ให้ศธ.ไปพิจารณาความเหมาะสมของตัวเลขการเพิ่มเงินอุดนหนุนอาหารกลางวันร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงบประมาณ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกระทรวงมหาดไทย เพราะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่องบประมาณจำนวนมาก

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับอัตราเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันอัตราใหม่นั้นศธ.ได้เสนออัตราแบบก้าวหน้าขั้นบันได แบ่งเป็น โรงเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนนักเรียน 1-20 คน เสนอให้ปรับขึ้นจากเดิม 20 บาท เป็น 36 บาท โรงเรียนที่มีนักเรียนจำนวน 21-40 คนปรับขึ้นจากเดิม 20 บาท เป็น 31 บาท โรงเรียนที่มีนักเรียนจำนวน 41-60 คน ปรับขึ้นจากเดิม 20 บาทเป็น 27 บาท โรงเรียนที่มีนักเรียนจำนวน 61-81 คนปรับขึ้นจากเดิม 20 บาทเป็น 25 บาท โรงเรียนที่มีนักเรียนจำนวน 81-100 คนปรับขึ้นจากเดิม 20 บาทเป็น 24 บาท โรงเรียนที่มีนักเรียนจำนวน 101-120 คนปรับขึ้นจากเดิม 20 บาทเป็น 24 บาท และโรงเรียนที่มีนักเรียน 121 คนขึ้นไปปรับขึ้นจากเดิม 20 บาทเป็น 24 บาท

“เรื่องอาหารกลางวันเป็นเรื่องสำคัญทางโภชนาการของเด็กที่จะต้องได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ดังนั้นเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันที่จะปรับใหม่นั้นจะต้องดำเนินการให้เกิดความเหมาะสมตามขนาดของโรงเรียน ซึ่งอัตราที่เหมาะสมจะอยู่ในจำนวนเท่าไหร่นั้นในสัปดาห์หน้าผมจะประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะการเพิ่มเงินจำนวนดังกล่าวถือเป็นการเพิ่มภาระงบประมาณ 7,000 ล้านต่อปี อย่างไรก็ตามเราตั้งเป้าจะเพิ่มเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันได้ในปีการศึกษา 2565” นายณัฏฐพล กล่าว.

ขอบคุณที่มา : Facebook At_HeaR ข่าวจริงเข้าหู

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่