ครม.มีมติปรับแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนโครงการอาหารกลางวัน คลุมเด็กตั้งแต่ปฐมวัยไปจนถึงประถมศึกษา
ครม.มีมติปรับแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนโครงการอาหารกลางวัน คลุมเด็กตั้งแต่ปฐมวัยไปจนถึงประถมศึกษา

ครม.มีมติปรับแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนโครงการอาหารกลางวัน ในโรงเรียนประถมศึกษา ให้ครบคลุมเด็กปฐมวัยโรงเรียนในกำกับของรัฐ

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบเครือข่ายการประชุมทางไกล Video conference ว่า ศธ.ได้เสนอให้มีการปรับ พ.ร.บ.กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา ให้ครบคลุมเด็กปฐมวัยโรงเรียนในกำกับของรัฐ และปรับสัดส่วนของกรรมการกองทุนฯ ซึ่งการปรับส่วนนี้จะเข้าไปช่วยเหลือความขาดแคลนอัตราอาหารกลางวันให้กับนักเรียนในอนาคต

ซึ่ง ครม.ให้ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)นำกลับมาทบทวนถึงอัตราเงินอุดหนุนอาหารกลางวันที่เหมาะสมอีกครั้ง ขณะนี้ตนได้ทบทวนแล้วซึ่งจะมีการขยับอัตราเงินอุดหนุนอาหารกลางวันใหม่ให้แน่นนอน แต่ขยับในสัดส่วนที่ไม่มีผลกระทบกับงบประมาณรัฐแน่นอน โดยจะปรับไม่มากและปรับตามความเป็นจริงที่สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น

ในอนาคตหาก ศธ. พัฒนาโรงเรียนคุณภาพชุมชนได้แล้ว นักเรียนจะขยับไปอยู่โรงเรียนขนาดกลางมากขึ้น เพราะฉะนั้น การปรับอัตราเงินอุดหนุนตรงนี้ก่อนที่จะนำเสนอ ครม.ผมก็คำนึงถึงอนาคตด้วยว่าโรงเรียนควรจะมีอัตราเงินอุดหนุนที่เท่าไหร่

คาดว่าเรื่องนี้จะนำเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ภายใน 2 สัปดาห์นี้ เพื่อให้ทางสำนักงบประมาณปรับงบฯปี 2565 ได้ทัน”

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ ดังนี้

1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อโครงการอาหารนักเรียนในโรงเรียน พ.ศ. …. และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

2. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว

3. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

4. ให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดเกี่ยวกับการจัดตั้งทุนหมุนเวียน โดยให้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารทุนหมุนเวียน เพื่อประโยชน์ในการรักษาวินัยการเงินการคลังของภาครัฐ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ

ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อโครงการอาหารนักเรียนในโรงเรียน พ.ศ. …. ที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ เป็นการจัดตั้งกองทุนเพื่อโครงการอาหารนักเรียนในโรงเรียน โดยปรับปรุงพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา พ.ศ. 2535 และให้โอนบรรดากิจการของกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษาที่สังกัดกระทรวงการคลัง (กค.) เป็น จัดตั้งกองทุนเพื่อโครงการอาหารนักเรียนในโรงเรียน ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อให้การบริหารงานเกิดความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และกำหนดวัตถุประสงค์การจัดตั้งกองทุนให้ครอบคลุมอาหารนักเรียนนอกเหนือจากอาหารกลางวันและให้รวมถึงโรงเรียนที่จัดการศึกษาภาคบังคับด้วยสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ

1. กำหนดนิยามคำว่า ?กองทุน? ?โรงเรียน? ?นักเรียน? ?อาหาร? ?คณะกรรมการ? ?ประธานกรรมการ? ?ผู้บริหารกองทุน? และ ?รัฐมนตรี?

2. กำหนดให้จัดตั้งกองทุนในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรียกว่า ? กองทุนเพื่อโครงการอาหารนักเรียนในโรงเรียน? โดยมีวัตถุประสงค์ (1) แก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการ การขาดแคลนอาหาร และส่งเสริมภาวะโภชนาการในโรงเรียน (2) สนับสนุนการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับอาหารสำหรับนักเรียนในโรงเรียน (3) ส่งเสริมผลผลิตโครงการอาหารนักเรียนในโรงเรียน (4) ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ด้านอาหารและโภชนาการ (5) ส่งเสริมพัฒนาการดำเนินงานกองทุน (6) ประชาสัมพันธ์ปัญหาภาวะทุพโภชนาการของนักเรียนและการดำเนินงานของกองทุน

3. กำหนดให้เงินและทรัพย์สินของกองทุนไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

4. กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารกองทุน ประกอบด้วย (1) เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานกรรมการ (2) ผู้แทน กค. ผู้แทนสำนักงบประมาณ (สงป.) ผู้แทน สพฐ. เป็นกรรมการ (3) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่เกิน 3 คน ซึ่งประธานกรรมการแต่งตั้งโดยความเห็นชอบของ กค. จากผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ และให้ผู้บริหารกองทุนเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้ผู้บริหารกองทุนแต่งตั้งเจ้าหน้าที่กองทุนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ ไม่เกิน 2 คน

5. กำหนดให้คณะกรรมการบริหารกองทุนมีอำนาจหน้าที่ (1) กำหนดนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ของกองทุน (2) กำหนดระเบียบหรือข้อบังคับเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล ตลอดจนกำหนดค่าตอบแทน สิทธิประโยชน์ หรือสวัสดิการต่าง ๆ ของผู้บริหารกองทุนและพนักงานโดยความเห็นชอบของ กค. (3) พิจารณาอนุมัติแผนงบประมาณรายรับและรายจ่ายประจำปีและแผนการดำเนินงานของกองทุน (4) พิจารณาจัดสรรเงินช่วยเหลือหรือทรัพย์สินอื่นให้แก่โรงเรียนตามระดับอายุของนักเรียนโดยคำนึงถึงเด็กเล็กและพื้นที่ตามความจำเป็นและเหมาะสม ฯลฯ

6. กำหนดให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน หนี้ ภาระผูกพัน พนักงาน และลูกจ้างของกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษาตามพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา พ.ศ. 2535 ไปเป็นของกองทุนเพื่อโครงการอาหารนักเรียนในโรงเรียนตามพระราชบัญญัตินี้

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 มกราคม 2564 | อีทีวีแม็ค เวทีสาธารณะเพื่อการศึกษา | RYT9

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่