เปิดรับสมัครแล้ว!! โครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพ ครอบครัวอบอุ่น ปี 2563 รับสมัคร 1 มิ.ย. – 15 ก.ค. 63 (รับจำกัด) โครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพ ครอบครัวอบอุ่น คือโครงการนำธรรมะสู่ภาคปฏิบัติ ฝึกฝนพัฒนาให้เป็นนิสัย โดยรณรงค์ให้สมาชิกหมั่นทำ 7 กิจวัตรความดีจนเป็นนิสัย อันได้แก่ 1) รักษาศีล ๕ 2) สวดมนต์ นั่งสมาธิ 3) จัดเก็บห้องนอน ห้องน้ำให้สะอาด เป็นระเบียบ 4) จับดีคนรอบข้าง 5) พูดจาไพเราะ 6) บำเพ็ญประโยชน์ 7) ร่วมกิจกรรมชั่วโมงสุขจริงหนอ
โครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพ ครอบครัวอบอุ่น ด้วย 7 กิจวัตรความดี หรือเรียก ย่อ ๆ ว่าโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพ นี้ คือโครงการที่มีจุดมุ่งหมายจะใช้กรอบแนวคิด เรื่อง 7 กิจวัตรความดีของชมรมบ้านแสงสว่าง ครอบครัวอบอุ่น แห่งประเทศไทย ผสานกับเทคโนโลยีการสื่อสาร อินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างระบบงานขับเคลื่อนศีลธรรมที่เข้มแข็งให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนจึงก่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรม ดังนี้
- โปรแกรมที่ให้ทั้งความรู้ เรื่องหลักสูตร กระบวนการ และระบบบันทึกผลงาน การประเมินผลงานบนเว็บไซต์ sila5.com ในส่วนของเมนูโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพ
- การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ บนช่องทางยูทูป (Youtube Channel) sila5.com
- เฟซบุ๊ค Facebook โครงการโรงเรียนรักษาศีล ๕ เชิงคุณภาพ
โดยมีรูปแบบ กิจกรรมและตัวชี้วัดความสำเร็จที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของชาติ และสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้เกิดการดำเนินงานอย่างเป็นระบบด้วยวงจรบริหารงานคุณภาพ (PDCA) ที่ชัดเจนทั้งการบริหารจัดการโครงการ การจัดการเรียนการสอน การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน อันจะนำมาซึ่งความมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนดไว้ โดยสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯจะได้รับประโยชน์ โดยสรุปดังนี้
ประโยชน์ในส่วนของสถานศึกษาและผู้บริหาร
- ได้รับการประกาศเป็นสถานศึกษาต้นแบบรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพ บนเว็บไซต์ sila5.com หากดำเนินการอย่างต่อเนื่องและพัฒนาเป็นลำดับตามเกณฑ์ที่ระบบวางไว้ พร้อมทั้งโล่รางวัลและ ใบประกาศนียบัตรเป็นสถานศึกษาต้นแบบรักษาศีล 5
- ได้รับประกาศเกียรติคุณ ในแต่ภาคการศึกษา หากดำเนินงานจนผ่านเกณฑ์ 5 ดาวในแต่ละ ภาคการศึกษา
- มีการบันทึกผลงานของโรงเรียนอย่างเป็นระบบ บนเว็บไซต์ sila5.com ซึ่งสามารถนำกลับไปใช้อ้างอิงเพื่อใช้ประกอบเกณฑ์การพิจารณาของโครงการเกี่ยวกับคุณธรรมอื่น ๆ ที่ทางสถานศึกษาได้เข้าร่วม หรืองานตามนโยบายจากหน่วยงานต้นสังกัด
- โอกาสในการได้รับทุนในการพัฒนาสถานศึกษา
- ได้รับการส่งเสริม สนับสนุน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างสถานศึกษากับหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้องกับโครงการในการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาไปพร้อมกัน
- สถานศึกษาสามารถนำผลงานที่ได้ดำเนินการมาเป็นแนวทางในการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการศึกษา
ประโยชน์ในส่วนของครูผู้ประสานงานหรือขับเคลื่อนงานและครูในสถานศึกษา
- สามารถทำเป็นผลงานวิจัย โดยใช้สื่อ นวัตกรรม 7 กิจวัตรความดีเป็นเครื่องมือในการทำวิจัย
- ได้รับใบประกาศเกียรติคุณ ในแต่ละภาคการศึกษา หากดำเนินงานจนผ่านเกณฑ์ 5 ดาว ในแต่ละภาคการศึกษา
- มีระบบงาน และเครื่องมือ สื่อ อุปกรณ์ที่ช่วยในการดูแลพัฒนาผู้เรียน เมื่อผู้เรียนมีพฤติกรรมที่ดี จะทำให้การดูแลง่าย ส่งเสริมบรรยากาศการเรียนรู้ และพัฒนาความสามารถทางวิชาการ ได้ง่ายขึ้น
- ทำให้ครูเกิดความรักในวิชาชีพของตนเอง มีความปลื้มปิติและภาคภูมิใจที่ได้ ส่งเสริมและพัฒนาให้ลูกศิษย์เป็นคนเก่งและดี
- สามารถนำผลงานที่ได้ดำเนินการโครงการ มาเป็นแนวทางในพัฒนาตนเองเพื่อรองรับ การประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครู ในสายผู้สอน
- ครูที่ต้องการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการที่ได้จาก นวัตกรรม 7 กิจวัตรความดี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการทำผลงานเพื่อเลื่อนวิทยฐานะก็สามารถนำผลงานมาเผยแพร่ผ่านทาง เว็บไซต์ sila5.com หรือโซเชียลมีเดียของทางโครงการได้
ประโยชน์ในส่วนของนักเรียน
- ได้รับสื่อสมุดบันทึกความดีเตือนสติและบันทึกผลงานความดีและโปสเตอร์ไปติดที่บ้าน เพื่อใช้พัฒนาตนเอง
- ได้รับเกียรติบัตร หากผ่านเกณฑ์ที่ระบบวางไว้
- โอกาสในการรับทุนการศึกษา
- มีโอกาสพัฒนาตนเอง ในด้านการใช้ทักษะด้านการสื่อสาร ทักษะชีวิต การใช้สื่อเทคโนโลยี การสร้างภาวะความเป็นผู้นำ และพัฒนาทักษะกระบวนการคิด
- เป็นพื้นที่แสดงผลงานการเปลี่ยนแปลงของผู้เรียนที่เข้าร่วมโครงการแล้วเกิดผลลัพธ์ที่ดีกับตัวเอง
โดยสรุปแล้วสถานศึกษา ผู้บริหารคณะครู นักเรียนหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาคุณภาพของเด็กและเยาวชนจะได้รับผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ภาคีเครือข่ายโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพ พร้อมเป็นพันธมิตรเพื่อให้กำลังใจและร่วมสนับสนุน
“เพราะเรามีความเชื่อที่ว่า สถานศึกษาเป็นสถานที่หล่อหลอม บ่มเพาะศีลธรรมให้เกิดขึ้นในตัวเยาวชนได้อย่างดีที่สุด”