ข่าวดีวันนี้ เกษตรกรเช็กสถานะรับเงิน 5 พันผ่าน www.เยียวยาเกษตรกร.com เริ่ม 15 พ.ค.63 เป็นต้นไป
ข่าวดีวันนี้ เกษตรกรเช็กสถานะรับเงิน 5 พันผ่าน www.เยียวยาเกษตรกร.com เริ่ม 15 พ.ค.63 เป็นต้นไป

ข่าวดีวันนี้ เกษตรกรเช็กสถานะรับเงิน 5 พันผ่าน www.เยียวยาเกษตรกร.com เริ่ม 15 พ.ค.63 เป็นต้นไป จากกรณีมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 โดยจ่ายเงินให้แก่ครัวเรือนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับหน่วยงานของรัฐ รายละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน พ.ค. – ก.ค. 63 จำนวน 10 ล้านราย  

ล่าสุด นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า สำหรับขั้นตอนการจ่ายเงินดังกล่าว ธ.ก.ส. จะรับข้อมูลผู้ขึ้นทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบแล้วจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ในกรณีเกษตรกรมีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. แล้ว สามารถใช้บัญชีเงินฝากเดิมได้ โดยไม่ต้องมาเปิดบัญชีใหม่

ส่วนเกษตรกรที่ไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. สามารถแจ้งเลขที่บัญชีเงินฝากที่มีอยู่กับธนาคารอื่น โดยเตรียมหมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ และเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคารอื่นจากนั้นเข้าเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com ซึ่งมีเกษตรกรบางส่วนได้แจ้งบัญชีเงินฝากธนาคารอื่นแล้ว

ทั้งนี้ เป็นเพียงการรับแจ้งช่องทางในการโอนเงินเท่านั้น ยังไม่ได้ตรวจสอบความซ้ำซ้อนของการให้ความช่วยเหลืออื่นๆ ของรัฐ เช่น การเยียวยา ผู้ประกอบอาชีพอิสระ (เราไม่ทิ้งกัน) ข้าราชการบำนาญ ประกันสังคม หรือโครงการอื่น ๆ

นายอภิรมย์ กล่าวอีกว่า กรณีเกษตรกรที่อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ 1-15 พ.ค. 63 จะไม่พบข้อมูลในเว็บไซต์ เนื่องจากข้อมูลที่กระทรวงเกษตรฯ จัดส่งให้ ธ.ก.ส. กลุ่มเป้าหมายแรกจำนวน 8.35 ล้านราย เป็นข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพียง ณ วันที่ 30 เม.ย.63 ดังนั้น เกษตรกรจะสามารถแจ้งบัญชีเงินฝากธนาคารอื่น หลังจากได้ตรวจสอบความซ้ำซ้อนตามเงื่อนไขของโครงการ

โดยเริ่มแจ้งได้ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 63 และ ธ.ก.ส. จะเริ่มโอนเงินเข้าบัญชีกลุ่มเป้าหมายที่ 2 พร้อมกับเกษตรกรที่มีบัญชี ธ.ก.ส. ในวันที่ 29 พ.ค. 63 เป็นต้นไป นอกจากนี้ เว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com ยังสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ โดยเกษตรกรที่ได้รับเงินกลุ่มแรกกว่า 8 ล้านราย สามารถตรวจสอบได้ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. 63 เป็นต้นไป

ขอบคุณที่มาและอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ 11 พ.ค. 2563

1 ความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่