กรอบงานหลักด้านการศึกษา 3 ประการ สร้างนักคิด นิวซีแลนด์

ในฐานะที่ประเทศนิวซีแลนด์มีการศึกษามีคุณภาพเป็นที่ยอมรับอันดับต้น ๆ ของโลก และในประเทศไทยมีหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ ภายใต้สถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ที่คอยส่งเสริมการศึกษาให้เด็กไทย โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ จัดนิทรรศการด้านการศึกษา ที่มุ่งเน้นเปิดโลกทัศน์ให้คนไทยเห็นระบบการศึกษาของประเทศนิวซีแลนซ์มากขึ้น ดังเช่น งานการศึกษานิวซีแลนด์ ที่ล่าสุดจัดเมื่อปลายปี 2019 ภายใต้แนวคิด Design Thinking : ฝึกออกแบบสมองลองคิดสร้างแอป”เปิดโอกาสให้เด็กไทยสัมผัสการเรียนรู้แบบใหม่ พร้อมทดลองเรียนจำลองแบบนิวซีแลนด์

ภายในงานมี “ทาฮา แมคเฟอร์สัน” เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ได้มาถอดบทเรียนการศึกษานิวซีแลนด์ ให้ฟังว่า การศึกษานิวซีแลนด์เน้นสร้างทักษะด้านการเตรียมความพร้อมให้นักเรียนนักศึกษาสามารถรับมือกับโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และพร้อมเป็นประเทศต้นแบบด้านเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต โดยทักษะที่สำคัญของศตวรรษที่ 21 คือ การพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์ การคิดวิเคราะห์ และการคิดรอบด้านอย่างเป็นระบบ ประเทศนิวซีแลนด์จึงจัดทำกรอบงานหลักด้านการศึกษา 3 ประการ ดังนี้

ประการแรก นิวซีแลนด์ใช้ระบบการศึกษาแบบ inquiry model of learningหรือการสอนแบบการแสวงหาความรู้เป็นฐาน คือ การสอนให้นักเรียนสืบเสาะหาคำตอบของปัญหาจากการรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ แล้วสรุปเป็นคำตอบ และทดสอบว่าคำตอบนั้นถูกต้องหรือไม่ทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ขึ้นได้ด้วยตนเอง มีการสอนวิธีถามคำถามที่สำคัญ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์

ประการที่สอง รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้สร้างระบบการศึกษาให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยหลักสูตรการเรียนการสอนนั้นได้รับความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศนิวซีแลนด์ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เข้าไปศึกษา และทดลองทำงานในระหว่างภาคเรียน เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และฝึกทักษะด้านการทำงานให้เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญนิวซีแลนด์ยังได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 3 ของประเทศที่เตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคตที่ดีที่สุดในโลกโดยได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 จากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก

ประการที่สาม นิวซีแลนด์ได้เตรียมเด็กรุ่นใหม่ให้เป็นพลเมืองระดับโลก และนักคิดแนวใหม่ ทั้งนี้ ประเทศนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางภาษาและวัฒนธรรม นักเรียนทุกคนจึงได้รับความรู้ทักษะและทัศนคติที่จะทำให้พวกเขาเข้ากับโลกที่แตกต่างได้อย่างกลมกลืน ทั้งยังตามหาเส้นทางของตัวเอง พร้อมกับมีความยืดหยุ่นที่จำเป็นในการประสบความสำเร็จในโลกยุคใหม่ที่ท้าทายนี้

“ทาฮา” กล่าวถึงจุดเด่นของงานการศึกษานิวซีแลนด์ครั้งที่ผ่านมาว่า เน้นให้นักเรียนได้สัมผัสการเรียนรู้แบบใหม่ พร้อมทดลองเรียนจำลองแบบนิวซีแลนด์ โดยครูนิวซีแลนด์ที่บินตรงมาสอนออกแบบพัฒนานวัตกรรมผสมผสานการคิดสร้างสรรค์ พร้อมเปิดรับทุนการศึกษาจากกว่า 20 สถาบันการศึกษาชั้นนำจากนิวซีแลนด์ตั้งแต่ระดับมัธยมจนถึงระดับอุดมศึกษา

เหตุผลที่การศึกษานิวซีแลนด์เหมาะกับการสร้างทักษะให้คนรุ่นใหม่เป็นเพราะมหาวิทยาลัยของเราทุกแห่งได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 3 อันดับสูงสุดของสถาบันทั่วโลก (จากการจัดอันดับโดย QS World University Rankings ปี 2018) นิวซีแลนด์เป็นอันดับ 1 ในการเตรียมนักเรียนให้พร้อมสำหรับอนาคต จากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก (Economist Intelli-gence Unit Educating for the Future Index, 2018) นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่สงบสุขเป็นอันดับ 2 ของโลก(Global Peace Index, 2019)

อาจเรียกได้ว่านิวซีแลนด์ เป็นผู้นำระดับโลกในด้านการศึกษา ที่ช่วยให้ผู้เรียนบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในทุกระดับชั้น

ขอบขอบคุณบทความ : ประชาชาติธุรกิจ 13 กุมภาพันธ์ 2563

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่